บทความก่อนหน้า:
บุกโตเกียวเจาะลึกจุดเด่นของ Xperia XZ3: หน้าจอ OLED 2K HDR รุ่นแรกจาก Sony
บุกโตเกียวเจาะลึกจุดเด่นของ Xperia XZ3: UI ที่เรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของคุณ
บุกโตเกียวเจาะลึกจุดเด่นของ Xperia XZ3: ไปทำอะไรมา ทำไมผอมลง?

    ePrice เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีชื่อดังของไต้หวันได้ถูกเชิญให้เดินทางไปยังสำนักงานใหญ่ของ Sony ในกรุงโตเกียวเพื่อไปฟังการบรรยายจาก Sony ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดของพวกเขามีดีอย่างไรบ้าง หลังจากที่ได้อ่านมา 3 ตอนแล้ว ในที่สุดก็มาถึงตอนสุดท้ายซึ่งจะพูดถึงเทคโนโลยีกล้องที่ปรับปรุงมาใหม่ของ Xperia XZ3 ซึ่งน่าจะเป็นประเด็นที่ทุกคนสนใจมากที่สุด

    Xperia XZ3 สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ล่าสุดมีการพัฒนาขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าในหลายๆด้าน ทว่าสิ่งที่หลายคนสงสัยกันเป็นอย่างมากก็คือ ทำไม Xperia XZ3 ถึงยังใช้กล้องเดี่ยวอยู่ดีในยุคที่สมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นๆแทบจะมาพร้อมกล้องคู่เป็นมาตรฐานกันแล้ว เช่นนี้แล้วจะทำให้มันตามสมาร์ทโฟนเรือธงยี่ห้ออื่นๆไม่ทันหรือไม่? ทว่าทางฝั่ง Sony Mobile ก็ได้ตอบอย่างมั่นใจว่า กล้องเดี่ยวของ Xperia XZ3 ก็มีประสิทธิภาพที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ากล้องคู่

    ดังนั้นวันนี้ เราจะแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้ว่ากล้องเดี่ยวของ Xperia XZ3 มีการปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างไรบ้าง !

​▲ ฟีเจอร์ Side Sense ที่เพิ่มเข้ามาบน Xperia XZ3 ก็ได้นำมาใช้ในแอปกล้องด้วยเช่นกัน

▲ มันถูกนำมาใช้ยังไง? ก็คือปุ่มชัตเตอร์ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ขณะถือในแนวนอน แต่เมื่อถือในแนวตั้งก็จะไม่สามารถกดได้ถนัด ปัญหานี้จะหมดไป เพราะเพื่อนๆสามารถแตะที่ขอบจอ 2 ครั้งแทนการกดปุ่มชัตเตอร์ได้เลย

▲ ในครั้งนี้ยังได้เพิ่ม Smart Launch ฟีเจอร์เรียกใช้งานแอปกล้องแบบอัจฉริยะเข้ามาอีกด้วย

Smart Launch

    สมาร์ทโฟนเรือธงตระกูล Xperia XZ ที่ผ่านมา การจะเรียกใช้งานกล้องแบบด่วนจะต้องกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เพื่อเปิดแอปกล้องขึ้นมา ทว่าในครั้งนี้ได้มีการปรับปรุงให้ง่ายยิ่งกว่าเดิม กล่าวคือ Sony Mobile ได้ใช้เซ็นเซอร์ Accelerometer ในการตรวจจับความเคลื่อนไหว รวมถึงใช้ Ambient light และ Proximity Sensor เพื่อร่วมกันตรวจจับว่าผู้ใช้ควักโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋าแล้วถือในแนวนอนเตรียมถ่ายรูปหรือไม่ ถ้าตรวจจับพบว่าเป็นไปตามเงื่อนไขดังกล่าว แอปกล้องก็จะเปิดโดยอัตโนมัติพร้อมสำหรับการถ่ายภาพ (สาเหตุที่ใช้ Accelerometer แทน gyro sensor เพราะว่าการที่จะให้ gyro sensor ทำงานอยู่ตลอดเวลามันจะสิ้นเปลืองแบตเตอรี่) และแน่นอนว่าการเรียกใช้งานกล้องแบบด่วนแบบเก่าก็ยังคงมีอยู่

▲ ในขั้นตอนการพัฒนาฟีเจอร์ Smart Launch พวกเขามีการใช้เทคโนโลยี Deep Learning เพื่อให้ระบบเรียนรู้ว่าสถานการณ์ไหนไม่ควรจะทำงาน เช่น ตัวเครื่องถืออยู่ในมืออยู่แล้ว หรือเครื่องอยู่ในกระเป๋าสะพาย ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้ Smart Launch ไม่ควรจะทำงาน

 

กล้องหน้า 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างกว่าเดิม

    แม้ว่า Xperia XZ3 จะยังคงมาพร้อมกล้องหลัง Motion Eye 19 ล้านพิกเซลเหมือนกับ Xperia XZ2 แต่ในส่วนของกล้องหน้านั้น ได้มีการอัปเกรดจาก 5 ล้านพิกเซลเป็น 13 ล้านพิกเซล และขนาดรูรับแสงยังกว้างกว่า Xperia XZ2 Premium อีกด้วย กล่าวคือปรับปรุงจาก F2.0 เป็น F1.9 แล้ว จะเห็นได้ว่ามันมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นจาก Xperia XZ2 เป็นอย่างมาก ถึงขนาดเทียบเท่าหรือดีกว่า Xperia XZ2 Premium เลยทีเดียว

▲ ฟีเจอร์ที่เพิ่มมาใหม่ของกล้องหน้า Xperia XZ3 ได้แก่ เอฟเฟคหน้าเรียว เอฟเฟคตาโต เอฟเฟคผิวผ่อง เอฟเฟคผิวเนียน และเอฟเฟคหน้าชัดหลังเบลอ

▲ ตารางเปรียบเทียบสเปคกล้องของ Xperia รุ่นเรือธงทั้ง 3 รุ่นของปีนี้

    อันดับต่อไป มาดูตัวอย่างภาพถ่ายเซลฟี่ที่ใช้เอฟเฟคที่เพิ่มมาใหม่ โดยฝีมือของ Lala พิธีกรในสื่อ Social Media ของ Sony Mobile ไต้หวันกัน

▲ ซ้าย: ภาพถ่ายย้อนแสง (หน้าชัดหลังเบลอ) ขวา: ภาพถ่ายย้อนแสง (ปกติ)

▲ ซ้าย: ภาพถ่ายไม่ย้อนแสง (หน้าชัดหลังเบลอ) ขวา: ภาพถ่ายไม่ย้อนแสง (ปกติ)

▲ ซ้าย: ภาพถ่ายเอฟเฟคผิวเนียน (หน้าชัดหลังเบลอ) ขวา: ภาพถ่ายเอฟเฟคผิวเนียน (ปกติ)

ชิปประมวลผล BIONZ for Mobile ที่พัฒนาขึ้น และการประมวลผลแบบ Deep Learning

    ในส่วนของกล้องหลัง ครั้งนี้พวกเขายังคงใช้โมดูล Motion Eye ที่ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ Exmor RS ความละเอียด 19 ล้านพิกเซล, G Lens เหมือนเช่นเดิม และชิปประมวลผล BIONZ for Mobile เหมือนเช่นเดิม แต่ทาง Sony เน้นย้ำว่า พวกเขาได้ออกแบบ algorithm ในการประมวลผลภาพสำหรับ Xperia XZ3 ขึ้นมาใหม่ และได้ร่วมมือกับ Qualcomm ในการปรับแต่งเทคโนโลยีให้เข้ากับ ISP (ชิปประมวลผลภาพ) ในขณะเดียวกันยังได้เพิ่มระบบ Deep Learning เข้ามาเพื่อปรับปรุงวิธีการคำนวณเพื่อตรวจจับ Scene ต่างๆ โดยหลักๆจะช่วยป้องกันสถานการณ์ที่อาจเกิดอาการ overexposed ซึ่งกล้องจะทำการปรับแต่งแสงและ white balance ให้พอเหมาะ ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม ดังนั้นถึงแม้ Xperia XZ3 จะไม่ได้มาพร้อมกล้องคู่ แต่การปรับปรุงซอฟต์แวร์ในครั้งนี้ก็ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลยล่ะ !

▲ Xperia XZ3 สามารถตรวจจับ Scene ได้ทั้งหมด 18 รูปแบบ และยังสามารถแยกแยะได้ดีกว่าเดิมด้วยความสามารถ Deep Learning ที่เพิ่มเข้ามา

▲ ในสภาพแวดล้อมที่มีสีเขียวเยอะหรือมีเมฆมาก กล้องสามารถปรับลดความสว่างหรือชดเชยแสงเพื่อให้ได้ภาพที่มีรายละเอียดครบและสีสันตรงกับความเป็นจริง

▲ การร่วมมือกับ Qualcomm ในการปรับแต่ง ISP ทำให้ความเร็วการโฟกัสและการจัดการ noise ทำได้ดีมากขึ้น

▲ ไม่เพียงแต่กล้องหลังเท่านั้น กล้องหน้ายังได้ถูกปรับปรุงให้มีผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมอย่างชัดเจน

▲ แผนภาพการทำงานของกล้องตั้งแต่เปิดไปจนถึงการถ่ายภาพ ฟีเจอร์อันชาญฉลาดต่างๆที่เพิ่มเข้ามาจะช่วยให้ผู้ใช้มีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Xperia XZ3 (แตะที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดเต็ม)

▲ F2、1/8s、ISO1600。

▲ F2、1/16s、ISO320。

▲ F2、1/50s、ISO160。

▲ F2、1/32s、ISO230。

▲ F2、1/800s、ISO40。

▲ F2、1/640s、ISO40。

▲ F2、1/50s、ISO100。

▲ F2、1/50s、ISO250。

▲ F2、1/50s、ISO40。

▲ F2、1/32s、ISO200。

▲ F2、1/160s、ISO40。

▲ F2、1/50s、ISO160。

▲ F2、1/200s、ISO40。

เปรียบเทียบภาพจาก Xperia XZ3 และ Xperia XZ2 Premium

    กล้องเดี่ยวของ Xperia XZ3 จะทำได้ดีอย่างที่ Sony กล่าวไว้หรือเปล่า พวกเราจึงนำมันมาลองถ่ายภาพกลางคืนเปรียบเทียบกับ Xperia XZ2 Premium ที่มีจุดแข็งในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลย มาดูว่าน้องใหม่อย่าง Xperia XZ3 จะสู้ไหวหรือไม่!

ช่วงก่อนพระอาทิตย์ตก:ซ้าย XZ3, ขวา XZ2 Premium

แม่น้ำยามค่ำคืน:ซ้าย XZ3, ขวา XZ2 Premium

ที่แสงน้อยมาก 1:ซ้าย XZ3, ขวา XZ2 Premium

ที่แสงน้อยมาก 2:ซ้าย XZ3, ขวา XZ2 Premium

    เมื่อดูจากตัวอย่างภาพถ่ายกลางคืน 4 ชุดด้านบนนี้ ดูเหมือนว่ากล้องเดี่ยวของ Xperia XZ3 จะทำได้ดีสูสีกับกล้องคู่ของ Xperia XZ2 Premium เลยทีเดียว และในส่วนของการเก็บรายละเอียดนั้น Xperia XZ3 แม้ว่าจะมี noise มากกว่า แต่ก็สามารถเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า ในขณะที่ Xperia XZ2 Premium โดดเด่นในด้านการควบคุม noise มีรายละเอียดบางส่วนที่ถูกลบออกไป

    ทว่าประเด็นที่สำคัญคือ ถ้าเกิดไม่ได้ตั้งใจเพ่งเพื่อเปรียบเทียบ ภาพที่ได้นั้นใกล้เคียงกันเลย กล้องเดี่ยวของ Xperia XZ3 สามารถสู้กับกล้องคู่ของเรือธงกล้องคู่อย่าง Xperia XZ2 Premium ได้ ถือเป็นสิ่งที่น่าประหลาดใจไม่น้อย หากลองย้อนกลับไปดูการเปรียบเทียบรูปถ่ายของ Xperia XZ2 Premium กับ Xperia XZ2 แล้วล่ะก็ จะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่ากล้องของ Xperia XZ3 มาไกลเพียงใด

สรุปสั้นๆ:กล้องมีการพัฒนา กล้องเดี่ยวก็สามารถสู้กับกล้องคู่ได้

    ผลการทดสอบการถ่ายภาพของ Xperia XZ3 ทำให้เราตกใจจริงๆ ก่อนหน้านี้เมื่อตอนที่เห็น Xperia XZ3 เปิดตัวมาพร้อมกับกล้องเดี่ยวนั้น รู้สึกข้องใจไม่น้อยว่าทำไมมันไม่มาพร้อมกล้องคู่ เพราะทุกวันนี้คู่แข่งหันไปใช้กล้องคู่กันหมดแล้ว แต่เมื่อได้มาลองถ่ายด้วยตนเองแล้วก็หายสงสัยแล้ว ที่แท้กล้องเดี่ยวก็สามารถสู้กล้องคู่ได้ แต่หากจะให้บอกข้อเสียของมันออกมา ก็คงจะเป็นเรื่องที่ Xperia XZ3 ไม่มีกล้องสำหรับถ่ายภาพขาวดำนี่แหละ เพราะมันต้องใช้เซ็นเซอร์แยกออกไป

   และแล้วบทความซีรีส์ตะลุยโตเกียวของ Xperia XZ3 ทั้ง 4 ตอนก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ หวังว่าเพื่อนๆจะได้รู้จักความพิเศษทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ หน้าจอ, UI, การออกแบบ และกล้องถ่ายภาพของ Xperia XZ3 กันมากขึ้น เพราะว่าที่จริงแล้ว Xperia XZ3 มีการปรับปรุงขึ้นจากเดิมไม่น้อย โดยเฉพาะรายละเอียดปลีกย่อยที่เราไม่อาจมองเห็นได้ และเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงมันมีเยอะเหลือเกิน เลยต้องแบ่งออกเป็นบทความยาวถึง 4 ตอน XD

  ก็จบกันไปแล้วนะครับกับบทความอันแสนยาวของ ePrice ผู้แปลก็ค่อนข้างเสียดายเหมือนกันที่ Xperia XZ3 ไม่มีเครื่องศูนย์ไทยขาย แต่ถ้าเพื่อนๆจะไปซื้อเครื่องนอก ก็บอกได้ว่าคุ้มครับ โดยเฉพาะเครื่องที่มี RAM 6GB จากฮ่องกงและไต้หวัน

ที่มา: ePrice

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่