บทความก่อนหน้า: ล้วงลึก Xperia 1 ณ แดนกระทิง: จอ 4K HDR OLED 21:9 มันเจ๋งจริงหรือเปล่า?
บทความก่อนหน้า: ล้วงลึก Xperia 1 ณ แดนกระทิง: กลับสู่ดีไซน์แนวเหลี่ยม แต่ไม่ทิ้งความโค้งมน

    Xperia 1 สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงปี 2019 ของ Sony Mobile ได้รวบรวมเอาเทคโนโลยีมากมายของ Sony ไว้ในเครื่องเดียว ดังเช่น หน้าจอ OLED 4K HDR ครั้งแรกของโลกบนโทรศัพท์ที่ได้กล่าวถึงไปในบทความตอนแรกสุด ทว่า Xperia 1 ไม่ได้มีดีแค่นั้น เพราะในส่วนของกล้องถ่ายภาพ ครั้งนี้พวกเขาได้ใส่เทคโนโลยีหลายอย่างที่แบรนด์อื่นไม่มีลงมาด้วย ในบทความนี้ ทาง ePrice เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีของไต้หวันจะพาเพื่อนๆไปรู้จักกับโมดูลกล้อง 3 ตัวชุดใหม่ล่าสุดที่ใส่มาบน Xperia 1

กล้อง 3 ตัว, เลนส์ 3 ระยะ และ OIS ที่เพิ่มเข้ามาในที่สุด

    ก่อนอื่นเลย เริ่มต้นด้วยกล้องหลังของ Xperia 1 กันก่อน ในครั้งนี้ทาง Sony Mobile ได้เลือกใช้กล้อง 3 ตัวเป็นครั้งแรก และไม่ได้เน้นการถ่ายภาพในที่แสงน้อยแบบ Xperia XZ2 Premium แล้ว พวกเขาได้เลือกใช้เลนส์ที่มีระยะโฟกัสแตกต่างกันออกไป ได้แก่ เลนส์ Super-wide 16 มม., เลนส์ระยะปกติ 26 มม. และเลนส์ Telephoto 52 มม. โดย 2 เลนส์หลังนั้นมาพร้อมระบบป้องกันสั่น OIS อีกด้วย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของสมาร์ทโฟน Sony เลยทีเดียว (ก่อนหน้านี้มีเพียงกล้องหน้าของตระกูล Xperia XA Ultra เท่านั้นที่มี OIS)

▲ OIS ที่เพิ่มมานั้นไม่ได้มีส่วนช่วยเพียงในเรื่องการป้องกันสั่นเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้การถ่ายภาพนิ่งสามารถลาก shutter speed ให้นานขึ้นได้อีกด้วย ยิ่งความเร็วชัตเตอร์ช้าก็ยิ่งสามารถลด ISO ลงได้มากขึ้น ทำให้ได้ภาพที่มี noise น้อย  ซึ่งครั้งนี้ทาง Sony Mobile ได้ประกาศชัดเจนว่า Xperia 1 จะสามารถตั้งค่า shutter speed ได้ต่ำสุดถึง 30 วินาที

    ไม่เพียงเท่านั้น เพื่อนๆได้สังเกตกันหรือไม่ว่า Xperia 1 มาพร้อมกล้องความละเอียดเพียง 12 ล้านพิกเซลเท่านั้น ไม่เหมือนกล้อง Motion Eye ที่มีความละเอียด 19 ล้านพิกเซล เหตุผลของความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ก็คือ ทาง Sony Mobile ได้เลือกใช้เซ็นเซอร์ถ่ายภาพรุ่นใหม่ที่มีเทคโนโลยี Dual Pixel และในขณะเดียวกันก็เพิ่มขนาดพิกเซลเป็น 1.4 µm ดังนั้นความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยย่อมสูงขึ้นอย่างแน่นอน

▲ ขนาดพิกเซลใหญ่ขึ้น 32%, ขนาดรูรับแสง F1.6 ที่กว้างขึ้นจาก Xperia XZ3 ถึง 45%

 

ปรับปรุงอัลกอริทึมใหม่ จัดการ Noise ตั้งแต่ไฟล์ RAW

    สำหรับ Xperia 1 ทาง Sony ได้เขียนอัลกอริทึมการจัดการ noise ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยที่ผ่านมาเมื่อใช้ Xperia ถ่ายภาพกลางคืน ขั้นตอนการจัดการ noise จะเกิดขึ้นหลังจากที่แปลงไฟล์ภาพจาก RAW เป็น JPG เรียบร้อยแล้ว แต่การที่เพิ่มชิปประมวลผลภาพถ่าย BIONZ X for Mobile เข้ามาในครั้งนี้ ทำให้ทันทีที่ Xperia 1 ถ่ายภาพ ระบบจะทำการจัดการ noise ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นไฟล์ RAW แล้วจึงค่อยแปลงออกมาเป็นไฟล์ JPG

    เพื่อนๆที่เล่นกล้องคงจะทราบกันดีว่า การจัดการ noise ตั้งแต่ไฟล์ RAW จะได้คุณภาพที่ดีกว่าการจัดการหลังแปลงเป็น JPG แล้ว ดังนั้นการถ่ายภาพกลางคืนของ Xperia 1 จะให้ภาพที่คมชัดและคุณภาพสูงกว่าเดิม

▲ อัลกอริทึมจัดการ noise แบบใหม่จะทำการลด noise ตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นไฟล์ RAW เช่นเดียวกับกล้อง alpha แล้วค่อยแปลงเป็นไฟล์ JPG วิธีนี้จะทำให้สามารถเก็บรักษารายละเอียดของภาพไว้ได้ดีกว่า

▲ นอกจากนี้ Xperia 1 ยังมีอีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจมากๆ ได้แก่ Eye AF ระบบโฟกัสติดตามดวงตาอัตโนมัติและ 10fps AF/AE burst ที่มาจากกล้อง mirrorless ของพวกเขา

Eye AF และ 10fps AF/AE ฟีเจอร์ที่ถอดมาจากกล้อง Mirrorless

    ฟีเจอร์ Eye AF ที่เพิ่มเข้ามาใหม่บน Xperia 1 คือการที่กล้องจะทำการโฟกัสติดตามดวงตาของบุคคลที่เลือก ซึ่งการโฟกัสติดตามดวงตาจะมีความแม่นยำมากกว่าการติดตามใบหน้า

    นอกจากนี้ Xperia 1 ยังได้เพิ่มความสามารถการถ่ายภาพต่อเนื่อง (Burst) 10fps AF/AE เข้ามาอีกด้วย โดยฟีเจอร์นี้เป็นฟีเจอร์ที่ปรากฏบนกล้อง Alpha A7 III แม้ว่าการถ่ายภาพต่อเนื่องจะเป็นความสามารถพื้นฐานของสมาร์ทโฟนไปแล้ว แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีเจ้าไหนที่สามารถโฟกัสและปรับ Exposure อัตโนมัติทุกๆภาพที่ถ่ายได้ ซึ่ง Xperia 1 สามารถถ่ายต่อเนื่องโดยที่โฟกัสติดตามวัตถุที่เลือก, ทำการวัดแสงพร้อมปรับแสงอัตโนมัติด้วยความเร็ว 10 ภาพต่อวินาทีได้เหมือนกับกล้อง mirrorless ของพวกเขา ฟีเจอร์นี้จะมีประโยชน์มากหากต้องถ่ายต่อเนื่องโดยที่วัตถุที่โฟกัสมีการเคลื่อนที่ไป-มาระหว่างจุดที่มีแสงมากไปในที่ที่แสงน้อยกว่า เช่น ขยับจากจุดที่แสงส่องถึงไปยังจุดที่อยู่ใต้ร่มเงา ที่ผ่านมากรณีเช่นนี้มักจะทำให้ภาพที่ได้ มืดหรือสว่างเกินไป

▲ มาต่อกันที่ความสามารถด้านวิดีโอของ Xperia 1

▲ สำหรับด้านการถ่ายวิดีโอ Xperia 1 ได้นำเอาเทคโนโลยีจากฝ่ายกล้อง CineAlta ที่เป็นผู้ผลิตกล้องวิดีโอสำหรับมืออาชีพที่ใช้ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์เข้ามาใส่ด้วย โดยจะมีโหมดถ่ายวิดีโอ CineAlta Pro ที่เป็นโหมด manual สำหรับวิดีโอ ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่าต่างๆได้หลากหลาย สามารถถ่ายวิดีโอที่มีกลิ่นอายแบบภาพยนตร์ได้อีกด้วย

เทคโนโลยีวิดีโอระดับมือโปรจาก CineAlta

    สิ่งที่ Sony Mobile ขอยืมมาจาก CineAlta ไม่ได้มีเพียงโปรไฟล์ภาพแบบ S-Log เท่านั้น โหมด CineAlta Pro ที่เพิ่มเข้ามา ยังทำให้ผู้ใช้สามารถปรับการตั้งค่าได้ใกล้เคียงกับกล้องวิดีโอระดับมืออาชีพ กล่าวคือสามารถปรับขนาดรูรับแสงจำลอง, ความเร็วชัตเตอร์, fix ค่า ISO และ frame rate นอกจากนี้ยังมี preset โหมดสีแบบภาพยนตร์ให้เลือกได้ทั้งหมด 8 แบบตั้งแต่ขณะที่ถ่าย ทำให้ไม่ต้องถ่ายก่อนแล้วค่อยนำไปลงบนคอมพิวเตอร์เพื่อปรับสี สามารถถ่ายวิดีโอโดยที่ได้สีสันแบบภาพยนตร์ตามที่เลือกได้ทันที

▲ “LOOK” ชุด preset สีที่มาจากกล้องวิดีโอความละเอียด 6K รุ่น “VENICE” ของ Sony โดยแบ่งโทนสีออกเป็นอารมณ์ต่างๆ ซึ่งคราวนี้มันมาอยู่บน Xperia 1 แล้ว

การกลับมาของดีไซน์อันคุ้นเคยจาก Sony

    สุดท้ายอยากจะกล่าวถึงดีไซน์ของตัวเครื่องสักเล็กน้อย ครั้งนี้ Xperia 1 ได้ทิ้งชื่อตระกูล Xperia X ไปแล้ว และได้เปลี่ยนแนวทางการออกแบบใหม่ แต่พวกเขาดูเหมือนจะไม่ได้ตั้งชื่อเฉพาะให้กับแนวทางการออกแบบนี้เหมือนที่ผ่านๆมา (เช่น Loop Surface)

ทาง ePrice ได้สอบถามไปยังดีไซเนอร์ของ Sony โดยได้คำตอบว่า ที่จริงแล้ว ที่ผ่านมาแนวทางการออกแบบต่างๆก็ไม่ได้เป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ รอบนี้ไม่ได้มีการตั้งชื่อพิเศษให้กับแนวทางการออกแบบของ Xperia 1 และ Xperia 10 แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ดีไซน์แบบ Omnibalance และเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านข้างตัวเครื่องก็ปรากฏอยู่บนทั้ง Xperia 1 และตระกูล Xperia 10 เชื่อว่าสาวกเก่าแก่ต้องรู้สึกคุ้นเคยตั้งแต่แรกเห็นกันอยู่แล้วล่ะ

▲ ไม่ย้ำไม่ได้ เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือข้างตัวเครื่องที่หลายๆคนรอคอยมานาน ในที่สุดก็กลับมาแล้วจ้า~

▲ กรอบเครื่องแบบนี้พร้อมกระจกหน้า-หลัง ได้กลิ่นอายของตระกูล Xperia Z กันบ้างไหม?

ที่มา: ePrice

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่