หลังจากที่มีภาพเรนเดอร์หลุดออกมาล่วงหน้าเป็นเดือนและสัปดาห์ที่ผ่านมามีภาพหลุดออกมามากมาย ในที่สุดเมื่อบ่ายวันนี้ Sony Mobile ก็ได้ประกาศเปิดตัว Xperia 1 เรือธงรุ่นใหม่สำหรับต้นปี 2019 อย่างเป็นทางการแล้ว จากชื่อรุ่นคงจะเห็นได้ว่า นี่เป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อกอบกู้สถานการณ์ที่ไม่สู้ดีนักของบริษัท หรือจะเพื่อตอบโต้เสียงวิจารณ์ทั้งหลาย เพราะนี่คือสมาร์ทโฟนเรือธงของ Sony ที่เกิดจากความร่วมมือของฝ่ายมือถือ ฝ่ายกล้อง ฝ่ายภาพยนตร์ ฝ่ายโทรทัศน์ และฝ่ายอื่นๆ เรียกได้ว่า จัดเต็มสุดๆแบบไม่เคยมีมาก่อน

จบยุคหลังเต่า กลับเข้าสู่ดีไซน์หลังเรียบ

    Xperia 1 ยังคงใช้วัสดุที่ใช้เป็นกระจก Corning Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและหลัง ส่วนเฟรมเครื่องเป็นอะลูมิเนียมเหมือนเช่นเคย ตัวเครื่องยาวขึ้นด้วยอัตราส่วนหน้าจอ 21:9 ด้านหลังแบนเรียบ ไม่ได้เป็นทรงหลังเต่าแล้ว แต่มีส่วนนูนเล็กน้อยที่บริเวณโมดูลกล้อง มุมทั้ง 4 โค้งมน เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือย้ายกลับไปไว้ด้านข้างขวาของตัวเครื่อง โดยต้องมีปุ่มพาวเวอร์แยกอยู่ด้านบน สำหรับรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ Black, White, Grey และ Purple ซึ่งด้านหน้าจะเป็นสีดำทั้งหมด

    ตำแหน่งของปุ่มต่างๆจะยังคงอยู่ด้านขวาของตัวเครื่องเช่นเดิม ได้แก่ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่อยู่ด้านบน ถัดมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ปุ่มพาวเวอร์แบบธรรมดา และปุ่มชัตเตอร์ที่จะขาดไปไม่ได้

 

หน้าจอ 4K HDR OLED 21:9 รุ่นแรกของโลก

    อย่างที่ทราบ หนึ่งในไฮไลท์ในครั้งนี้ คือ Xperia 1 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมหน้าจอ OLED 21:9 CinemaWide ความละเอียด 4K (3840 x 1644 พิกเซล) และรองรับ HDR 10-bit ซึ่งมันมีขนาด 6.5 และจอยังชิดขอบมากยิ่งกว่าเดิม โดยครั้งนี้พวกเขาร่วมมือกับฝ่าย Bravia เพื่อนำเอาเอ็นจิ้นจัดการภาพ X1 for mobile บน Bravia รุ่นท็อปมาใส่บนสมาร์ทโฟน และยังได้ร่วมกับ CineAlta (แบรนด์กล้องถ่ายภาพยนตร์ระดับมืออาชีพของ Sony) ในการสร้างโหมด “Creator mode” ที่สามารถแสดงผลภาพได้สีสันตรงและสมจริงตามมาตรฐาน DCI-P3 100%, BT2020 colour space และ D65 White Point เหมือนกับหน้าจอที่ใช้ในกองถ่าย และพวกเขายังได้ร่วมมือกับ NetFlix ทำให้แอป NetFlix รองรับโหมด Creator mode อย่างเป็นทางการอีกด้วย เพื่อนๆจะสามารถรับชมภาพและสีสันที่เหมือนดังที่ผู้สร้างตั้งใจทำไว้

    ข้อดีของหน้าจอทรงยาว 21:9 นอกจากการรับชมภาพยนตร์แล้ว มันยังทำให้การแบ่งครึ่งจอแบบ multi-windows สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

  ฟีเจอร์ Side Sense ของ Xperia XZ3 ก็ยังคงมีอยู่ ที่สามารถแตะ 2 ครั้งที่ขอบหน้าจอ แล้ว AI จะคาดการณ์แล้วแสดงไอคอนแอปที่คาดว่าคุณจะเรียกใช้ออกมา เพื่อให้เปิดแอปที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว

 

Snapdragon 855 ชิปตัวแรง กับความจุ 128GB ครั้งแรก

    ในด้านประสิทธิภาพ Xperia 1 มาพร้อมชุดชิปประมวลผลแบบ 64-bit Octa-core ของ Qualcomm รุ่น Snapdragon 855 ซึ่งแรงยิ่งกว่าเดิม และ RAM ขนาด 6GB นอกจากนี้ยังรองรับ 5CA LTE, 4X4 MIMO ความเร็วดาวน์โหลดผ่าน LTE สูงสุด 1.6 Gbps หน่วยความจำภายในมีขนาด 128GB โดยเป็นแบบ UFS ที่อ่านข้อมูลได้รวดเร็ว ช่องใส่ SIM ที่ 2 เป็นแบบ Hybrid รองรับ Nano SIM ผู้ที่ต้องการหน่วยความจำเพิ่ม สามารถใส่ Micro SD แบบ SDXC ความจุสูงสุด 2TB (ปัจจุบันมีจำหน่ายสูงสุด 512GB) ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie และรองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 และ NFC

 

กล้อง 3 ตัวที่ยกเครื่องร่วมกับทีม alpha

    นี่คือครั้งแรกของ Sony Mobile ที่ใส่กล้องหลัง 3 ตัวบนสมาร์ทโฟน โดยโมดูลกล้องรุ่นใหม่นี้ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้ง 3 เลนส์ ดังนี้:

  1. ระยะ 26mm: ใช้เซ็นเซอร์ Exmor RS for mobile แบบ memory-stacked (มี DRAM) ขนาด 1/2.6 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.4μm ประกอบกับเลนส์ F1.6 มุมกว้าง 78° พร้อม OIS สำหรับภาพนิ่ง และระบบ Hybrid OIS/EIS สำหรับวิดีโอ
  2. ระยะ 16mm (Super wide): ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.4 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.0μm ประกอบกับเลนส์ F2.4 มุมกว้างเป็นพิเศษถึง 135°
  3. ระยะ 52mm (Telephoto): ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.4 นิ้ว ขนาดพิกเซล 1.0μm ประกอบกับเลนส์ F2.4 มุมกว้าง 45° พร้อม OIS สำหรับภาพนิ่ง และระบบ Hybrid OIS/EIS สำหรับวิดีโอ โดยเลนส์นี้จะใช้สำหรับการถ่ายภาพพื้นหลังเบลอ (Bokeh Effect) และ optical zoom 2x

    ใช่แล้ว! หลังจากที่รอคอยกันมาเนิ่นนาน ในที่สุด Sony Mobile ก็ได้ใส่ OIS มาในกล้องหลังแล้วถึง 2 เลนส์ด้วยกัน โดยจะทำงานเดี่ยวๆในการถ่ายภาพนิ่ง และทำงานร่วมกับ EIS ในการถ่ายวิดีโอ ไม่เพียงเท่านั้น Xperia 1 ยังสามารถถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ได้แล้วด้วย!

    แต่ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขาได้ร่วมกับทีมงาน Sony alpha ในการนำระบบประมวลผลภาพถ่าย BIONZ X ที่อยู่บนกล้อง alpha และ RX100 M6 มาใส่ใน Xperia 1 ทำให้มันเป็นสมาร์ทโฟนเครื่องแรกของโลกที่มาพร้อมฟีเจอร์ Eye AF (โฟกัสอัตโนมัติแบบติดตามดวงตา) และยังสามารถถ่าย burst shots 10FPS แบบ AF/AE (Auto Focus/Auto Exposure) ไปจนถึงระบบการลด noise สำหรับไฟล์ RAW นอกจากนี้ยังใช้เทคโนโลยี Dual photo diode ที่ช่วยให้เซ็นเซอร์สามารถรับแสงได้มากกว่า เพื่อให้ถ่ายภาพกลางคืนได้อย่างคมชัด

    ข่าวดีสำหรับเพื่อนๆหลายๆคนที่ชอบการถ่ายภาพในโหมด manual ก็คือ ตอนนี้พวกเขาปลดล็อค full manual ให้ปรับแต่ง ISO, shutter speed ได้ตามใจชอบแล้ว โดยสามารถปรับ shutter speed ได้ช้าสุดถึง 30s เลยทีเดียว จากเดิมที่ล็อคไว้ที่ 1s มากว่าครึ่งทศวรรษ

 

กล้องวิดีโอระดับมืออาชีพบนสมาร์ทโฟน

    อีกหนึ่งจุดพีคของ Xperia 1 ก็คือความสามารถการถ่ายวิดีโออันน่าสะพรึง นอกจากจะยังคงสามารถถ่าย 960 fps Super slow-motion (FHD/HD) และ 4K HDR video ได้เหมือนเช่นเคย ครั้งนี้พวกเขายังได้ร่วมกับ CineAlta ในการสร้างโหมด Cinema Pro หรือโหมดถ่ายภาพยนตร์ในอัตราส่วน 21:9 ระดับมืออาชีพ ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกปรับโทนสีของวิดีโอได้มากถึง 8 โทน และอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ระบบป้องกันสั่นแบบใหม่ได้ผสานเอา EIS ที่ทำได้ดีอยู่แล้ว มารวมกับความสามารถของ OIS ที่เพิ่งใส่เข้ามา ย่อมทำให้มันมีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน

    ส่วนกล้องหน้าเป็นเลนส์มุมกว้าง 84° เซ็นเซอร์ขนาด 1/4 นิ้ว ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.4μm รูรับแสง F2.0 รองรับการเปิดแฟลชด้วยแสงหน้าจอ พร้อมระบบป้องกันสั่น SteadyShot และฟีเจอร์ Portrait Selfie effects ซึ่งมีเอฟเฟกต์ 5 แบบให้เลือก ได้แก่ Bokeh, Soft skin, Skin brightness, Eye enlargement และ Slender face

 

ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ร่วมพัฒนากับ Sony Pictures

    Xperia 1 มาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ที่พัฒนามาสำหรับระบบเสียงของโรงภาพยนตร์ซึ่งให้เสียงหลากมิติจากทุกทิศทางรอบตัว ซึ่งจะทำให้สามารถดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ คลิปวิดีโอ และเพลงที่ยอดเยี่ยมมากยิ่งกว่าเดิม

    ตัวเครื่องยังใช้ลำโพงคู่สเตอริโอที่ให้เสียงที่ดังและมีมิติ แต่ลำโพงล่างได้ย้ายไปอยู่ข้างล่างเครื่อง และยังคงรองรับไฟล์ High-Resolution Audio (LPCM, FLAC, ALAC, DSD) มีฟีเจอร์ DSEE HX ที่ช่วยอัพเกรดคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น รองรับการเข้ารหัส LDAC และ aptX HD audio ที่ทำให้สามารถฟังเพลงผ่านหูฟังบลูทูธได้โดยไม่สูญเสียความละเอียด นอกจากนั้นก็ยังคงมีฟีเจอร์ Clear Audio+, Stereo recording และ Stereo Recording ที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว

 

Game Enhancer โหมดใหม่ เอาใจคอเกม

    Xperia 1 ยังมีอีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือ Game Enhancer ที่จะช่วยบริหารจัดการทรัพยากรเครื่องให้สามารถเล่นเกมได้เต็มประสิทธิภาพ จัดการการรบกวนจากการแจ้งเตือนต่างๆ รวมไปถึงการบันทึกหน้าจอทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ แต่หากคุณเป็นสาย console รุ่นนี้ก็ยังคงรองรับ PS4 Remote Play ได้เช่นเคย และที่สำคัญคือ จอที่ยาวขึ้นช่วยให้เมื่อวางนิ้วจะไม่บังหน้าจอเกมที่เรากำลังเล่นอีกด้วย

    Xperia 1 มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3330mAh รองรับระบบชาร์จเร็วตามมาตรฐาน Power Delivery และยังคงมาพร้อมเทคโนโลยี Adaptive Charging ที่จะช่วยจัดการพลังงานอย่างอัจฉริยะให้แบตเตอรี่เสื่อมช้าลง  นอกจากนี้ตัวเครื่องมี STAMINA mode และมีโหมดถนอมแบตเตอรี่ Battery Care บนตัวเครื่องมีพอร์ต USB Type-C เวอร์ชั่น 3.1 Gen 1

    Xperia 1 หนา 8.2 มม. กว้าง 72 มม. และยาว 167 มม. ส่วนน้ำหนักนั้นอยู่ที่ 180 กรัม กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/68 เหมือนเคย สำหรับวันวางจำหน่าย Sony Mobile ยังไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด แต่คาดว่าน่าจะไม่เกินเดือนมิถุนายน

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่