เปิดตัว Xperia XZ และ X Compact อย่างเป็นทางการ – สมาร์ทโฟนที่มีระบบกันสั่น “5 แกน” เครื่องแรกของโลก

    หลังจากที่มีภาพหลุดออกมาให้เห็นก่อนตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม ล่าสุดภายในงาน IFA 2016 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนีในวันนี้ Sony Mobile ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Xperia XZ และ Xperia X Compact ซึ่งเป็นเรือธงชุดที่ 2 ของตระกูล Xperia X แล้ว

Xperia XZ

 

    เริ่มต้นกันที่ Xperia XZ ก่อน สมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่นี้เป็นผู้สืบทอดคนใหม่ในตระกูล Xperia X ซึ่งเหมือนเป็นเวอร์ชั่นอัพเกรดของ Xperia X Performance โดย Xperia XZ จะถูกสร้างขึ้นมาโดยเน้นไปที่ปัจจัยสำคัญ 4 อย่าง ได้แก่ ดีไซน์ ประสิทธิภาพ กล้องถ่ายรูป และอายุแบตเตอรี่

    Xperia XZ มาพร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์แบบใหม่ของ Sony ที่เรียกว่า “Loop Surface” และมีสีใหม่ที่เป็นตัวแทนของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ก็คือ สีน้ำเงิน “Forest Blue” ตัวเครื่องผลิตขึ้นจากวัสดุใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า “ALKALEIDO” ซึ่งเป็นอะลูมิเนียมขอบโค้งมน ให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมเมื่อสัมผัส และไม่เป็นรอยเปื้อนง่าย

 

    ในครั้งนี้ Sony กลับมาเลือกใช้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้วที่มีความละเอียด 1080 x 1920 พิกเซล (Full HD) อีกครั้ง โดยถูกครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass และมาพร้อมเทคโนโลยี Triluminos Display for Mobile และ X-Reality เหมือนเช่นเคย มาพร้อมชุดชิพประมวลผลแบบ 64-bit quad-core รุ่น Snapdragon 820 และ RAM ขนาด 3GB เหมือนกับ Xperia X Performance ในส่วนของความจำภายในมีขนาด 32GB สำหรับรุ่น SIM เดียว (พื้นที่ใช้งานสำหรับผู้ใช้ 20GB) และ 64GB สำหรับรุ่น dual-SIM โดยผู้ที่ต้องการหน่วยความจำเพิ่ม สามารถใส่ Micro SD แบบ SDXC ความจุสูงสุด 2TB (ปัจจุบันมีจำหน่ายสูงสุด 256GB) ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 6.0 Marshmallow และรองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.2 และ NFC

    ตัวเครื่องยังคงมีปุ่มเปิด-ปิดแบบใหม่ที่ฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้เหมือนเช่นเคย โดยตำแหน่งของปุ่มต่างๆจะยังคงอยู่ในตำแหน่งด้านขวาของตัวเครื่องเช่นเดิม

    ไฮไลท์ของ Xperia XZ อยู่ที่ในด้านการถ่ายภาพที่อัดเทคโนโลยีใหม่มาอย่างจัดเต็ม แม้ว่าเซนเซอร์ที่ใช้จะเป็น Exmor RS ขนาด 1/2.3 นิ้ว ความละเอียด 23 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม แต่ Sony ได้พัฒนาเซนเซอร์ IMX300 เวอร์ชั่นใหม่มาเพื่อ Xperia XZ โดยเฉพาะ นอกจากจะมาพร้อมเทคโนโลยี Predictive Hybrid Autofocus ที่คาดเดาทิศทางการเคลื่อนที่ของวัตถุล่วงหน้าเพื่อให้จับโฟกัสได้แม่นยำที่มาพร้อม Xperia X แล้ว ในครั้งนี้ Sony ได้ใส่เซนเซอร์อีก 2 ชิ้นเข้ามาเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการถ่ายให้ยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก โดยเรียกเทคโนโลยีนี้ว่า “Triple Image Sensing Technology” ซึ่งจะเป็นระบบ Autofocus แบบใหม่ของรุ่นนี้ นั่นทำให้กล้องจะสามารถตรวจจับสี ตรวจจับระยะ และใช้เลเซอร์ในการช่วยวัดระยะห่างได้อย่างแม่นยำ และยังสามารถติดตามการเคลื่อนที่วัตถุได้อย่างชาญฉลาด

    ทาง Sony อ้างว่า Triple image sensing technology จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจับภาพในเสี้ยววินาทีได้ในทุกสภาพแวดล้อมและทุกสถานการณ์ โดยระบบเซนเซอร์แต่ละตัวจะทำงานดังนี้:

• ‒Image sensing สามารถโฟกัสแบบอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยมีระบบติดตามวัตถุที่ยอดเยี่ยมจากเทคโนโลยี Predictive Hybrid Autofocus ที่ช่วยติดตามและคาดเดาการเคลื่อนไหวถัดไปของวัตถุ

• ‒Distance sensing ใช้เซนเซอร์ Laser Autofocus ที่ใช้เลเซอร์ในการวัดระยะ ช่วยให้สามารถ Autofocus ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำแม้อยู่ในสภาพแสงน้อย

• ‒Color sensing ตรวจจับสีด้วยเซนเซอร์ RGBC-IR sensor ที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพแล้วได้สีตรงกับที่ตาเห็นจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงใดก็ตาม

    แอพกล้องยังคงสามารถปลดล็อคและถ่ายได้ภายใน 0.6 วินาทีด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เมื่อเครื่องอยู่ในสถานะ standby ตัวกล้องรองรับ ISO สูงสุดถึง 12800 เช่นเคย และสามารถซูมได้ถึง 5 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียด และ digital zoom สูงสุด 8 เท่า ส่วนตัวเลนส์นั้นเป็น G Lens มุมกว้าง 24 มม. f / 2.0 โดยครั้งนี้แอพกล้องของ Sony มาพร้อมโหมด Manual ที่สามารถตั้งค่าได้มากขึ้นแล้ว สามารถตั้งค่า Shutter Speed ได้อย่างที่สาวกหลายๆคนเรียกร้องมานานเสียที (ขอปาดน้ำตาแป๊บ T^T) นอกจากนี้แอพถ่ายวิดีโอ 4K ได้ถูกใส่กลับมาอีกครั้ง โดยสามารถซูม 2X ได้โดยไม่สูญเสียรายละเอียด

    อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของรุ่นนี้ก็คือ Xperia XZ เป็นสามารถโฟนเครื่องแรกของโลกที่มีระบบป้องกันสั่นแบบ 5 แกน โดยระบบป้องกันสั่น 5 แกนนี้จะทำงานพร้อมกับ Steadyshot with Intelligent Active Mode ในการถ่ายวิดีโอ ซึ่งจะทำงานทั้ง 5 แกนเมื่อเป็นการถ่ายวิดีโอแบบ Macro ด้วยความละเอียดไม่เกิน Full HD และจะทำงาน 3 แกน (pitch/yaw/roll) ในกรณีอื่นๆ

    ส่วนกล้องหน้าเป็นเลนส์มุมกว้าง 22 มม. เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/3.06 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล f/2.0 รองรับ ISO สูงสุด 6400

    Xperia XZ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 2900mAh ที่สามารถใช้งานได้ 2 วัน รองรับ Quick Charge 3.0 และมาพร้อมเทคโนโลยี Qnovo Adaptive Charging ที่จะช่วยจัดการพลังงานอย่างอัจฉริยะซึ่งทำให้แบตเตอรี่แบบฝังเครื่องมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับ Xperia Z2 (เสื่อมช้าลงนั่นเอง) ตัวเครื่องมี STAMINA mode และนอกจากนี้แล้วพอร์ต micro USB ได้ถูกแทนที่ด้วย USB Type-C แล้ว

    แน่นอนว่า Xperia XZ ก็ยังคงสามารถกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP65/68 เหมือนกับรุ่นเรือธงที่ผ่านๆมา โดยสามารถกันน้ำได้โดยไม่ต้องปิดพอร์ตหูฟังและ USB Type-C

    ในด้านเสียงนั้น Xperia XZ ยัง คงรองรับไฟล์ High-Resolution Audio (LPCM, FLAC, ALAC, DSD) มีฟีเจอร์ DSEE HX ที่ช่วยอัพเกรดคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น รองรับการเข้ารหัส LDAC ที่ทำให้สามารถฟังเพลงผ่านหูฟังบลูทูธได้โดยไม่สูญเสียความละเอียด และยังคงรองรับ Digital Noise Cancelling เช่นเคยเมื่อใช้ร่วมกับหูฟังที่รองรับ นอกจากนั้นก็ยังคงมีฟีเจอร์ Clear Audio+, S-Force Front Surround, Auto-headset compensation และ Stereo Recording ที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ลูกเล่น PS4 Remote Play ก็ยังคงสามารถใช้งานได้เช่นเคย

 

    Xperia XZ หนา 8.1 มม. กว้าง 72 มม. และยาว 146 มม. ส่วนน้ำหนักนั้นอยู่ที่ 161 กรัม ตัวเครื่องนั้นจะวางจำหน่ายในสี Platinum, Mineral Black และ Forest Blue ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม นอกจากนี้จะยังมีรุ่น 2 ซิมอีกด้วย

 

 

 

Xperia X Compact

 

    มาถึงตารุ่นเล็กสเปคแรงอย่าง Xperia X Compact กันบ้าง ดีไซน์ สเปคและฟีเจอร์หลักๆของรุ่นนี้เหมือนกันกับ Xperia XZ ดังนั้นเราจะพูดถึงแค่สิ่งที่แตกต่างออกไป Xperia X Compact มาพร้อมหน้าจอ IPS LCD ขนาด 4.6 นิ้วที่มีความละเอียด 720 x 1280 พิกเซล (HD) เหมือนกับ Compact รุ่นก่อนๆ โดยถูกครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass และมาพร้อมเทคโนโลยี Triluminos Display for Mobile และ X-Reality เหมือนกับ Xperia XZ แต่ใช้ชุดชิพประมวลผลแบบ 64-bit hexa-core รุ่น Snapdragon 650 เหมือนกับ Xperia X แทน ส่วน RAM ได้ถูกอัพเกรดขึ้นมาเป็น 3GB แล้ว จากที่ผ่านๆมารุ่น Compact ให้ RAM มาเพียง 2GB เท่านั้น

    Xperia X Compact มาพร้อมความจำภายใน 32GB เท่านั้น (พื้นที่ใช้งานสำหรับผู้ใช้ 20GB) และไม่มีรุ่น dual-SIM ดีไซน์ใช้ร่วมกับ Xperia XZ ราวกับเป็น Xperia XZ ที่อาบด้วยแสงจากไฟฉายย่อส่วนของโดราเอม่อน

    กล้องของ Xperia X Compact อัดแน่นมาด้วยเทคโนโลยีแบบเดียวกับ Xperia XZ ที่กล่าวมาข้างต้น มาทั้ง Triple Image Sensing Technology และระบบป้องกันสั่นแบบ 5 แกน แต่ไม่มีแอพสำหรับถ่ายวิดีโอ 4K

    กล้องหน้าของ Xperia X Compact เป็นเลนส์มุมกว้าง 22 มม. เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/3.06 นิ้ว f/2.0 รองรับ ISO สูงสุด 6400 เหมือนกัน แต่มีความละเอียดเพียง 5 ล้านพิกเซล

    แบตเตอรี่มีขนาด 2700 mAh ใช้ USB Type-C และมีเทคโนโลยีอื่นๆเหมือนกับ Xperia XZ แต่สิ่งที่น่าเสียดายที่สุดคือ Xperia X Compact ไม่มีมาตรฐานการกันน้ำ

    ตัวเครื่องมีสัดส่วน 129 x 65 x 9.5 มม. น้ำหนัก 135 กรัม โดยจะวางจำหน่ายในสี Universe Black, White และ Mist Blue ซึ่งจะเริ่มวางจำหน่ายในสัปดาห์หน้านี้เลย