เมื่อไม่นานมานี้ Sony ได้เปิดตัวพาวเวอร์แบงค์ 2 รุ่น ได้แก่ CP-SC5 และ CP-SC10 พร้อมกับอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ CP-AD3 โดยอุปกรณ์ชาร์จไฟเหล่านี้มีจุดที่เหมือนกันก็คือ ทำมาเพื่อใช้ร่วมกับ USB Type-C เท่านั้น กล่าวคือ พอร์ตบนอุปกรณ์เหล่านี้ล้วนเป็น USB-Type C และรองรับไฟเข้าและออกที่ 5V 3.0A ซึ่งทำให้มันชาร์จได้เร็วกว่าอะแดปเตอร์หรือพาวเวอร์แบงค์ปกติที่ใช้ USB Type-A 2 เท่า
พาวเวอร์แบงค์รุ่น CP-SC5 มีความจุ 5,000 mAh และมีพอร์ต USB Type-C จำนวน 1 ช่องซึ่งใช้ทั้งสำหรับชาร์จไฟตัวมันเองและปล่อยกระแสไฟให้อุปกรณ์อื่น โดยรองรับไฟเข้าและไฟออกสูงสุด 3.0A ที่ 5V
ส่วนพาวเวอร์แบงค์ CP-SC10 มีความจุ 10,000 mAh และมีพอร์ต USB Type-C จำนวน 2 ช่อง ซึ่งมี 1 ช่องที่ใช้ทั้งสำหรับชาร์จไฟตัวมันเองและปล่อยกระแสไฟให้อุปกรณ์อื่น และอีกช่องสำหรับปล่อยกระแสไฟให้อุปกรณ์อื่นเท่านั้น โดยรุ่นนี้ก็รองรับไฟเข้าและไฟออกสูงสุด 3.0A ที่ 5V เช่นกัน และรองรับการจ่ายไฟพร้อมกันสูงสุด 6.0A นอกจากนี้ CP-SC10 ยังสามารถชาร์จไฟตัวเองพร้อมกับปล่อยกระแสไฟให้อุปกรณ์อื่นในเวลาเดียวกันได้อีกด้วย
Sony อ้างว่า เทคโนโลยี Hybrid Gel ของตน ทำให้แบตเตอรี่ Lithium-ion Polymer เหล่านี้สามารถชาร์จได้เต็มความจุนานถึง 1,000 รอบ และจะยังคงรักษาความจุไว้ได้ 90% ภายหลังจากการชาร์จ 1,000 รอบแล้ว พาวเวอร์แบงค์ทั้ง 2 รุ่นจะมีสาย USB Type-C แถมมาด้วยภายในกล่อง บนตัวพาวเวอร์แบงค์จะมีหลอดไฟ LED 4 หลอดสำหรับแสดงระดับแบตเตอรี่ ทั้งคู่จะวางจำหน่ายทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเทา สีเงิน และสีทอง
ในส่วนของอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ CP-AD3 นั้น ถูกออกแบบมาให้ใช้กับ USB Type-C เท่านั้น ตัวอะแดปเตอร์สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 3.0A ที่ 5V เช่นกัน โดยวางจำหน่ายในสีขาวเท่านั้น
ทาง Sony ประเทศสิงคโปร์ระบุว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะเริ่มวางจำหน่ายภายในเดือนกรกฎาคมนี้เลย นี่สามารถช่วยยืนยันอีกครั้งว่า Xperia ที่จะเปิดตัวปลายปีนี้จะใช้พอร์ต USB Type-C อย่างแน่นอน ตามที่เราได้เห็นไปก่อนหน้านี้ แต่จุดที่น่าสังเกตคืออุปกรณ์เหล่านี้ไม่รองรับเทคโนโลยี QuickCharge 2.0 หรือ 3.0 เลย นั่นทำให้เราไม่แน่ใจว่า Xperia รุ่นปลายปีที่จะมาพร้อม USB Type-C จะรองรับ QuickCharge 3.0 หรือไม่? หรือการที่อุปกรณ์เหล่านี้รองรับไฟเข้าและออกที่ 5V/3.0A อาจจะชาร์จได้เร็วเพียงพอจนทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยี QuickCharge ของ Qualcomm อีกต่อไป? แต่ที่แน่ๆคือ หากไม่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว Sony ก็จะสามารถลดต้นทุนที่ต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรให้กับ Qualcomm ในการผลิตอุปกรณ์ต่างๆ
รายละเอียดข้อมูลทางเทคนิค
Model Name |
CP-SC5 |
CP-SC10 |
CP-AD3 |
|
Input |
DC 5V, 3.0A |
DC 5V, 3.0A |
AC 100V ~ 240V, 0.4A, 50/60Hz, 24W |
|
Output |
USB Type-C |
3.0A (Max) |
6.0A (Max) |
5V, 3.0A (Max.) |
Size (W x H x D mm) |
63.5 x 125.0 x 13.1 |
65.0 x 127.0 x 21.8 |
44.0 x 26.0 x 75.5 |
|
Weight |
161g |
270g |
68g |
|
Supply Time[1] |
USB Type-C |
Approx. 50 min |
Approx. 40 min |
– |
Battery Capacity |
5,000mAh |
10,000mAh |
– |
|
Charging Time |
Via AC Adaptor |
Approx. 3.5 hours |
Approx. 5 hours |
– |
Via USB Port |
Approx. 12 hours |
Approx. 24 hours |
– |
|
Operating Temperature |
0°C ~ 35°C |
[1] Supply time varies depending on battery condition, storage condition and portable device
ที่มา: Sony Singapore
- ประทับใจสุดๆ
- ดีจังเลย
- โกรธสุดๆ
- เฉยๆ อ่ะ
- รู้สึกหดหู่
สาวกอารยธรรมผู้คลั่งไคล้ทุกสรรพสิ่งที่ติดโลโก้ SONY.