หลังจากที่รอคอยมานานจากข่าวหลุดต่างๆเกี่ยวกับเจ้า Xperia Honami ไม่ว่าจะเป็นจอ 5 นิ้ว Triluminos Display หรือกล้องขนาด 20MP พร้อมเลนส์ตัวใหม่เราก็ได้พบกับตัวจริงของเจ้า Honami หรือ Xperia Z1 ในงาน IFA ที่เบอร์ลิน โดยโชว์ฟีเจอร์ด้านกล้องใหม่ๆมากมาย รวมทั้งประสิทธิภาพของ Sony G Lens พร้อมชิป BionZ ตัวใหม่ เจ้า Z1 เจ๋งขึ้นกว่า Z เยอะไหมหรือเป็นเเค่รุ่น Mirror Design ที่อัพเกรดสเปคจาก Z มาไปชมกันครับ
อุปกรณ์ภายในกล่อง
โดยในเครื่องที่เราได้มาก็จะพบอุปกรณ์มาตราฐานทั่วไป เเต่มี Dock DK31 เเถมมาให้ด้วย (เครื่องศูนย์ไทยต้องรอดูอีกที) พร้อมกับสาย micro USB เเละที่ชาร์จรุ่น EP881 Output ที่ 1800mA (ชาร์จโคตรเร็ว) เเละหูฟัง MH750 พร้อมจุกเปลี่ยนเเละคู่มือการใช้งานต่างๆ โดยราคาเครื่องในไทยตอนนี้ก็หลุดออกมาเเล้วสำหรับเครื่อง 3G ที่ 20,990 ส่วนเครื่อง 4G น่าจะเข้าช่วงปลายปี โดยเริ่มขายที่เเรกในงาน Thailand Mobile Expo 2013 Showcase โดยงานจะมีวันที่ 3-6 ตุลาคม 2556 ไปเยี่ยมชมกันได้ที่บูธโซนี่ครับ
- ขนาดเครื่อง 144.4 x 73.9 x 8.5 mm
- หน่วยประมวลผล 2.2 GHz Qualcomm MSM8974 Quad Core
- มาพร้อมกับ Android™ 4.2 (Jelly Bean)
- หน้าจอ 5.0 inch TRILUMINOS™ Display 1920×1080 pixels
- มี X-Reality™ for mobile (คล้ายๆ Bravia) ช่วยให้ภาพดูชัดสมจริงขึ้น
- เเรม 2 GB หน่วยความจำภายใน 16GB สามารถใส่เพิ่มได้อีก 64GB
- รองรับ LTE (4G)
- เเบตเตอร์รี่ขนาด 3000 mAh
- กล้องความละเอียด 20.7 MP พร้อมชิป Exmor RS เเละ BionZ เเละเลนส์ของโซนี่ G Lens สามารถบันทึกวีดีโอได้ที่ 1080p
- มีปุ่มชัตเตอร์เเล้ว ^_^)/
- กล้องหน้าความละเอียด 2 MP ถ่ายวีดีโอที่ 1080p
- มาพร้อมกับ NFC เเละ Bluetooth 4.0 พร้อมช่องเสียบ Dock เเบบเเม่เหล็ก
- มีทั้งหมด 3 สี ดำ,ขาว เเละ ม่วง เเต่ม่วงน่าจะเข้าที่หลังสุด
- หนัก 169 กรัม
การดีไซน์หลักๆของเครื่องยังคงยึดรูปเเบบเดิมของปี 2013 อยู่คือเเบบ
Omi Balance Design ที่ทั้งเครื่องไม่ว่าจะเป็นบนล่างหรือซ้ายขวาจะ
สมมาตรกันทุกส่วน โดยตัวเครื่องยังคงดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับ Xperia Z
โดยใน Xperia Z1 ได้เปลี่ยนวัสดุเป็นอะลูมิเนียมกับกระจก มันจึงให้การ
สัมผัสที่ดีกว่า Xperia Z ที่ขอบคล้ายยางเเข็งมาก โดยเป็นอะลูมิเนียมขัด
ขอบมลทำให้จับได้ง่ายเเละไม่รู้สึกเมื่อยมือเมื่อถือนานเเละ เเต่ด้วยความที่
มันเป็นอะลูเวลาถือตอนเปียกๆมันจะลื่นมือมาก ด้านหน้าเเละด้านหลังยังคง
เป็นกระจก Dragon Tail เหมือนเดิม
กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 2.1 MP รองรับการถ่ายวีดีโอที่ 1080p โดย
ปุ่มต่างๆของเครื่องยังอยู่บนจอคล้ายๆ Nexus เช่นเคย เพื่อความสะดวกในการ
ใช้งานเเต่มันก็มีข้อเสียเล็กๆเวลาคุณเล่นเกมเเล้วเผลอไปโดน ด้าน UI Home
Screen ก็เป็นตัวใหม่เหมือนกับ Xperia Z Ultra เครื่องจะยาวกว่า Xperia Z เล็ก
น้อย โดยคิดว่าเป็นเพราะการย้ายลำโพงลงมาอยู่ด้านล่างทำให้ต้องใช้เนื้อที่
ด้านล่างเยอะขึ้น เเต่เวลาถือเล่นไม่รู้สึกเเตกต่างจาก Z เท่าไร
ด้านหลังของตัวเครื่องจะพบกับกล้องขนาด 20.7 MP ล้านพิกเซลในอัตราส่วนภาพ 4:3
โดยมีรูรับเเสงกว้างสุดที่ 1/2.3 (ใหญ่ที่สุดของสมาร์ทโฟนตอนนี้โดยน่าจะใหญ่ประมาณ
กล้องคอมเเพกต์ ตระกูล Cyber Shot) เเละ Sony G Lens เลนส์ตัวใหม่ของ Sony
ที่ใช้ชั้นเลนส์ทั้งหมด 5 ชั้นช่วยในการรับเเสงที่ดีขึ้น ทำให้สามารถเก็บรายละเอียดภาพ
ในที่เเสงน้อยได้ดีกว่าเดิม มาพร้อมเซ็นเซอร์รับภาพ Exmor RS for Mobile เเบบเดียวกับ
Xperia Z ที่ช่วยให้สามารถถ่าย VDO เเบบ HDR(ถ่ายย้อนเเสง) ได้ หน่วยประมวลผลภาพ
BIONZ for mobile ที่สามารถลด Noise ได้ดีกว่าเดิม โดย G Lens f2.0 ของโซนี่มี
ระยะไวด์ที่ 27 มิลลิเมตร โดยมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่อย่าง ระบบซูมภาพแบบ Clear Image
Zoom 3(ซูมโดยไม่เสียรายละเอียดภาพ) เท่าบนเทคโนโลยี By-pixel super resolution
(คล้ายหลักการ Lossless Zoom ของโนเกีย 808 PureView) เเต่ภาพที่ได้ออกมาก็จะมีความ
ละเอียดเเค่ 8MP เท่านั้น
ถัดลงมาจากเลนส์กล้องก็จะพบกับ LED Flash เเละสัญลักษณ์NFCที่ใช้เป็นจุดเชื่อมต่อ
NFC เพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ต่างๆผ่านเทคโนโลยี One-Touchด้านบนจะพบกับไมค์อีกตัว
สำหรับตัดเสียงรบกวนรอบๆ
ด้านข้างจะเป็นช่องใส่ Micro SIM เเละปุ่มสำหรับปิดเครื่องเวลาที่เครื่องค้างทำไรไม่ได้
โดยใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มกดลงไป (หรือจะใช้การกดปุ่ม Power+ลดเสียงก็ได้)
ถัดลงมาก็จะพบกับปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่องเเละใช้ในการล็อคหน้าจอด้วย
โดยออกเเบบเป็นปุ่มอลูมิเนียมสลักสัญลักษณ์ Power โดยใน Xperia Z1 ได้มีการออกเเบบ
ให้เล็กลงกว่าเดิม(เล็กกว่าของ Z Ultra อีก) ซึ่งตรงนี้ผมว่ามันให้ความรู้สึกเเปลกๆ
กดไม่ชินมือเหมือนใน Z หรือ Z Ultraเอาเสียเลยเเละถัดมาก็เป็นปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง
โดยใน Xperia Z1 ได้ทำการเพิ่มปุ่มชัตเตอร์มาให้เเล้ว เพื่อความสะดวกในการถ่ายใต้น้ำ
เเละสามารถเข้าสู่โหมดกล้องอย่างรวดเร็วเเม้เครื่องจะล็อคหน้าจออยู่เพียงเเค่กดปุ่มค้างไว้
อีกด้านหนึ่งก็จะพบกับพอร์ตต่างๆประกอบด้วย Micro USB port เเละ
Micro SD Card โดยทั้ง 2 ถูกปิดด้วยที่ครอบขอบยางเพื่อกันน้ำเข้า
ถัดมาเป็นจุดต่อ Dock เเบบเเม่เหล็กซึ่งใช้งานสะดวกกว่าเเบบของเดิม
มากเพราะการต่อเเบบนี้สามารถทำให้ Dock มีขนาดเล็กลงกว่าเดียว
การวางชาร์จเเค่เอามือถือมาปักบน Dock จะเอาไปเล่นก็หยิบออกง่ายๆ
เพราะยึดกันอยู่ด้วยขั้วเเม่เหล็ก
ด้านบนพบกับเเจ็คหูฟังขนาด 3.5mm โดยได้เคลือบสารกันน้ำไว้เรียบร้อย
ทำให้เราไม่ต้องมาคอยเปิด/ปิดพอร์ทให้ยุ่งยากเเบบใน Xperia Z อีกต่อไป
ในส่วนของลำโพงด้านล่างเครื่องที่ทำเป็นเเนวยาว ให้เสียงที่ดังกว่าเดิม เเต่เสียงที่ออกไม่ยังทุ้มๆ ไม่ค่อยใสเเบบพวก Arc เท่าไร ยังให้รายละเอียดเสียงไม่ดี
มากนัก (เห็นลำโพงตอนเเรกในคลิป Promo เเล้วตั้งความหวังไว้สูงไปหน่อย T_T ) โดยหลักๆน่าจะติดอยู่ที่คุณสมบัติกันน้ำของลำโพงทำให้ได้พลังเสียง
ออกมาไม่เต็มที่ ถ้าไปทางซ้ายเป็นรูร้อยสายคล้อง ที่เจาะเข้าไปในขอบเเบบ Xperia Z
ลองวางเปรียบเทียบความหนาระหว่าง Xperia Z1 กับ Xperia Z Ultra โดยเมื่อมองด้านข้างเเล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าให้ Xperia Z1 ทำขอบดำเเบบ Xperia Z Ultra คงออกมาสวยไปอีกเเบบ ทางด้านน้ำหนักที่ Z1 มีน้ำหนัก ที่ 169 grams Xperia Z มีน้ำหนักที่ 146 grams เเต่เวลาใช้งานจริงกลับไม่รู้สึกเเตกต่างกันเท่าไร
หน้า Home Screen เเบบใหม่เหมือนกับ Xperia Z Ultra ซึ่งผมชอบหน้า App Drawer มากพื้นหลังดำทำให้เเอพฯดูเด่นขึ้นไม่เหมือนพื้นหลังสีขาว
เเบบของ Xperia Z การจัดการค้นหา ลบเเอพฯ การจัดเรียงต่างๆทำได้เเค่เลื่อนมาหน้าซ้ายสุด หรือลากจากมุมซ้ายของจอเหมือนดึงใน Facebook
ปุ่ม Navigation bar เเละ Notification bar ที่ทำเเบบโปร่งเเสง ให้ความรู้สึกสวยอีกเเบบ การเเก้ไขหน้า Home การเพิ่ม Widget ยังคงเหมือน Xperia Z
ด้านการใช้งานโทรศัพท์เมนูต่างๆก็จะคล้ายกับ Xperia รุ่นก่อนๆ การค้นหารายชื่อ การซิงค์ข้อมูลออนไลน์จาก Google Account
การใช้งานด้าน Message คีย์บอร์ดเเบบ 3 เเถวรองรับการ Swipe ในตัว
ในส่วนของ Setting ได้ทำการเปลี่ยนพื้นหลังเป็นโทนสีขาว หลักๆก็ยังคล้ายรูปเเบบการตั้งค่าเดิมๆของ Android เเต่เพิ่มส่วน Xperia Connectivity สำหรับ
ควบคุมการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่างๆ เเละ Personalisation สำหรับจัดการธีมของเครื่อง ในส่วนของการเเสดงผลเปลี่ยนจาก Mobile Bravia Engine เป็น
X-Reality for mobile เเทน ด้านการใช้งาน STAMINA Mode ยังมีอยู่เหมือนเดิม โดยเมื่อเปิดโหมดนี้จะทำให้เครื่องใช้พลังงานน้อยที่สุดเมื่อถูกปิดหน้าจออยู่
โดยจะปิดการทำงานต่างๆในส่วนที่ไม่จำเป็นออก โดยเครื่องที่เราได้มารีวิวเป็นตัว Android 4.2.2 Firmware 14.1.G.1.534
App Recent ที่ได้รับการเปลี่ยนรูปเเบบใหม่เอา Preview App มาไว้ตรงกลาง เเละสามารถกดตรงลูกศรเพื่อเปิดเเท็ป mini App ทั้งหมดได้ โดยสามารถโหลด
mini App อื่นๆได้จาก Google play ส่วนเเท็บ Notification Bar ยังคงรูปเเบบ Jelly Bean โดย Quick Setting ด้านบนสามารถเพิ่มได้มากกว่า 1 เเถวเเล้ว
Walkman App ที่ได้รับการเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาใหม่โดยหน้าหลักยังคงคล้ายเดิม เเต่เพิ่มเเถบเพลงเล็กๆด้านล่างมาเพื่อสามารถเปลี่ยนเพลงได้สะดวก
โดยอินเตอร์เฟซต่างๆยังคงคล้ายของเดิม มี Friends’ Music ไว้สำหรับดูเพลงที่เพื่อนๆฟังบน facebook(ดู MV เพลงที่เพื่อนโพสนั่นเเหละ) เเละ SensMe
สำหรับเลือกฟังเพลงตามโทนอารมณ์ นอกจากนั้นยังสามารถปรับลูกเล่นเสียงผ่าน Sound Enhancement หรือใช้ ClearAudio+ ก็ได้
ทางด้าน Movie ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาใหม่โดยเเยกเอาส่วน Device ออกจากหน้าหลักเเล้วเเทนที่ด้วยคลิปต่างๆของเราเเทน เเละก็จะพรีวิว
คลิปล่าสุดที่เราดูด้านบนโดยสามารถกดเข้าไปดูต่อได้อย่างสะดวก ทางด้าน Gallery ก็ได้ทำการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยโดยลบขอบขาวของภาพที่พรีวิวออก
ทำให้ดูสวยขึ้นเยอะทีเดียวการ pin to zoom เพื่อย่อ-ขยายรูป preview ทำได้สะดวกเเละสวยงาม My Album ที่รวมรูปทุกอย่างที่เราซิงค์เข้ามา
เเละ Sony Select ซึ่งเป็นคลังโหลดเเอพฯของโซนี่ซึ่งเเอพส่วนมากก็เหมือนกับใน Play Store นั่นเเหละ
ทางด้าน Organization ต่างๆจะมาในรูปเเบบเดิม เเต่ถูกเปลี่ยนพื้นหลังเป็นโทนขาวดูสะอาดตาขึ้นมาก ในส่วนของนาฬิกาสามารถตั้งค่าเพื่อดูเวลาในเมือง
ต่างๆได้ มีโหมดจับเวลาเเละ Timer ทั่วไป ในส่วนของปฏิทินก็สามารถเลือกตั้งค่า Event ต่างๆ รวมถึงซิงค์กิจกรรมที่เราบันทึกไว้ใน Account ต่างๆลงมาดูได้
ในส่วนการใช้งานออนไลน์ด้านต่างๆ เริ่มต้นที่ Social Life ที่จะดึงทุก Feed ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, News มาเเสดงในเเอพฯเดียว(มันก็คือ
Timescape เวอร์ชั่นใหม่นั่นเอง) โดยการใช้งานในการอ่านข้อความต่างๆเเค่เลือนไปทางขวา ส่วนของ News & Weather ที่รวมทุกข่าวเเละสภาพอากาศ
Map ที่ได้รวมส่วนของ Navigator เเละ Place ไว้ในตัว การจับสัญญาณ GPS ทำได้เร็วเเละเเม่นยำดี ในส่วนของ Smart Connect ที่เป็นส่นควบคุม
ระบบต่างๆที่ง่ายดายโดยใช้หลักเวลาเเละการเชื่อมต่อมาควบคุม เช่นเราตั้งโหมด Night ไว้ เมื่อถึงเวลาก็จะเปลี่ยนเป็นโหมดปิดเสียงอัตโนมัติพร้อมเปิด
เเอพฯนาฬิกาปลุกขึ้นมา หรือเมื่อเราเสียบหูฟังก็จะเปิดเเอพฯ Walkman ขึ้นมาอัตโนมัติ เเละส่วนของ Google Now ที่เปิดใช้งานโดยการเเตะที่ปุ่ม Home
ค้างไว้เเล้วลากขึ้นไป เเสดงข้อมูลต่างๆที่ผู้ใช้งานอยากทราบ ใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็วเช่นเคย
จากที่เกริ่นนำในเบื้องต้นเกี่ยวกับกล้อง 20.7MP ของ Xperia Z1
เเละเลนส์ตัวใหม่ของ Sony G Lens เเล้ว โซนี่ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ
ของกล้องมาอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นโหมด Manual ที่สามารถปรับเเต่งได้ง่าย
หรือจะเป็นโหมด Superior Auto ที่ยกมาถ่ายรูปได้เลย ไม่ต้องปรับเเต่ง
อะไรมาก โหมดถ่ายรัวเเบบ Burst-shot ที่เเยกออกมาเป็น Timeshift Burst
โหมด Picture Effect ที่ใส่ Effect เเบบเรียลไทม์ โหมด Sweep Panorama
เเต่งเติมตัวการ์ตูนต่างๆในรูปภาพด้วย AR Effect โหมด Info-eye ที่จะหา
ข้อมูลสิ่งที่เราถ่ายมาให้ เเละจุดเด่นหลักๆเลยคือ Social Life ที่สามารถ
ถ่ายคลิปอัพขึ้นเฟซบุคเเบบสดๆเลย
เเละยังมี Feature ต่างๆที่โซนี่ได้เปิดตัวมาพร้อมกับ Z1 ไม่ว่าจะเป็น
Clear ImageZoom 3(ซูม 3 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียดภาพ) โดยภาพที่
ออกมาจะมีขนาด 8MP หรือ Steady Shot ที่ถ่ายภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ
ได้โดยภาพไม่เบลอ เเละการถ่ายภาพกลางคืนโดยไม่ใช้ Flash ช่วย
เเต่เครื่องที่เราเทสยังเป็น Firmware รุ่นเเรกที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร
ทำให้ภาพที่ได้มี Noise เยอะเเละการซูม 3 ชั้นยังไม่ชัดเท่าที่ควร
.
_____________________________________________________Camera UI__________________________________________________
โหมด Manual จะสามารถปรับเเต่งค่าต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นรายละเอียด ค่า ISO การปรับ Metering, Exposure value, White Balance, Focus เป็นต้น
โดยสามารถเลือกความละเอียดภาพได้ที่ 20MP เเบบ 4:3, 8MP, 6MP ซึ่งตรงนี้อยากให้เพิ่มอีกค่านึงซัก 13MP สำหรับถ่ายรูปเเบบ 16:9 จะเป็นไรที่ดีมาก
การสลับระหว่างโหมดกล้องเเละวีดีโอทำได้สะดวก
โหมด Superior Auto ซึ่งก็เหมือนกับโหมด Auto ของมือถือทั่วๆไป ที่สามาถยกขึ้นมาถ่ายได้เลย เครื่องจะเลือกซีนเเละปรับเเต่งภาพ
ให้อัตโนมัติ เเต่โหมดนี้ยังมีปัญหาเรื่อง White Balance ที่เพี้ยนบ้างบางครั้ง ทำให้หลายๆคนใช้โหมด Manual มากกว่า
การเลือกใช้งานโหมดต่างๆสามารถทำได้อย่างง่ายดายโดยกดสัญลักษณ์โหมดบริเวณขวามือของกล้อง
ก็จะเป็นโหมดต่างๆเพิ่มขึ้นมาโดยมีทั้งหมดอยู่ 8 โหมดคือ
– Superior auto สำหรับถ่ายภาพเเบบออโต้ไม่ต้องปรับเเต่งอะไร
– Manual สำหรับการถ่ายภาพที่ต้องการปรับเเต่งค่าต่างๆ
– Timeshift Burst สำหรับการถ่ายภาพรั่ว 61 ภาพเเล้วให้เราเลือกภาพที่ดีที่สุด
– Picture Effect สำหรับการถ่ายภาพโดยใส่ Effect เเบบเรียลไทม์
– Sweep Panorama สำหรับถ่ายรูปเเบบพาโนราม่า
– AR Effect สำหรับถ่ายรูปโดยใส่เอฟเฟค 3 มิติที่ใช้หลัก Gyro ในการสร้าง 3D ขึ้นมา หรือเรียกเท่ๆว่า Augmented Reality
– Info-eye สำหรับถ่ายรูปสิ่งของต่างๆเช่นตึก หนังสือ ฯลฯ เเล้วมันจะหาข้อมูลต่างๆมาให้เรา
– Social Live ที่เราสามารถถ่ายคลิปอะไรก็ได้ มันจะอัพขึ้น Facebook ให้เพื่อนเราดูเเบบสดๆ
โดยในอนาคตสามารถเพิ่ม camera app ได้จาก play store ไม่เเน่เราอาจจะสับเปลี่ยนเป็น Camera 360 ได้จากโหมดกล้องเลยก็ได้ ^^
ในโหมด Timeshift Burst เมื่อเรากดถ่ายภาพ กล้องจะทำการถ่ายภาพรัว 61 ภาพใน 3 วิ คือ 30ภาพก่อนเรากด เเละ 1 ภาพเมื่อเรากด
ชัตเตอร์เเละ 30ภาพหลังเรากดชัตเตอร์ โดยเราสามารถลากเพื่อเลือกภาพที่ดีที่สุดได้
โหมด AR Effect โดยสามารถเลือก Effect ต่างๆได้ 7 ชนิด(อาจมีเพิ่มได้ในอนาคต) โดยเเต่ละเอฟเฟคจะเล่นกับระบบ Gyro คือมันจะอยู่กับที่
ขณะที่เราเเพนกล้องไปรอบๆ โดยอนิเมชั่นต่างๆก็จะเคลื่อนไหวไปตามเเบบของมัน
โหมด Info-eye โดยโหมดนี้เมื่อเราถ่ายรูปสิ่งของใดๆไป กล้องจะหาข้อมูลสิ่งนั้นมาให้เรา เช่นหนังสือหรือสิ่งก่อสร้างต่างๆเป็นต้น
ดูคลิปการใช้งานเบื้องต้น
มาถึงฟีเจอร์เด็ดกันบ้างกับ Social Live ที่เราสามารถถ่ายคลิปวีดีโออัพขึ้น Facebook เเบบสดๆได้เลย เเละเพื่อนสามารถกด Like
หรือคอมเม้นตอบโต้ได้ในเวลาเดียวกัน โดยจะล็อคอินจาก Facebook ในเครื่อง เมื่อกดถ่ายมันจะให้เราพิมพ์ชื่อคลิปพร้อมเลือกได้ว่าเราจะ
เเชร์เเบบสาธารณะ หรือเเค่เพื่อนจากนั้นก็กดถ่ายได้เลย โดยสามารถ Live ได้นาน 10 นาที โดยสามารถกดดูคอมเม้นต่างๆได้จาก
กล้องได้เลย โดยเมื่อเรา Live เสร็จคลิปจากถูกเก็บไว้ในคลังของโซนี่สามารถกดดูย้อนหลังได้
ดูคลิปการใช้งานเบื้องต้น
Xperia Z1 ถ้าพูดง่ายๆคือ Xperia Z รุ่นอัพเกรตที่ปรับวัสดุเป็นอลูเพิ่มความเเข็งเเรงหรูหรา
เเละปรับปรุงข้อเสียต่างๆของ Z ไม่ว่าจะเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องที่ใส่เพิ่มขึ้นมาหรือลำโพงที่พัฒนาให้ใหญ่ขึ้น รวมทั้งหน้าจอที่ใช้ Triluminos เเละกล้องขนาด 20MP Sony G Lens
โดยรวมด้าน Software ยังไม่ต่างจาก Z Ultra เท่าไรนอกจากฟีเจอร์กล้องที่เพิ่มขึ้นมา
ข้อดี
- ขอบตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมขัดมน ให้ความรู้สึกในการถือได้ดีกว่า Z เเละจับได้ถนัดกว่า
- ใช้ CPU Quad Core 2.2 GHz ของ Qualcomm ทำให้มันไวมาก ใช้งานไม่สะดุดเลย
- การเข้ากล้องทำได้ไวกว่าตอน Z มาก
- รูหูฟังไม่ต้องมีพอร์ทปิด ใช้งานง่ายกว่าเก่าเยอะไม่ต้องคอยมาเปิดอีกต่อไป
- ลำโพงสนทนาที่ดัง เเละไฟ Notification ที่อยู่จุดเดียวกัน สวยงามไปอีกเเบบ
- การชาร์จผ่าน Dock ทำได้ง่ายดาย เพราะใช้เเม่เหล็กในการยึด ทำให้การเสียบชาร์จเเหละหยิบออกสะดวกมาก
ข้อเสีย
- ขอบเครื่องเป็นอลูมิเนียม ถ้ามือเปียกๆหรือมีเหงื่อจะรู้สึกลื่นมาก
- กล้อง 20MP เเต่คุณภาพยังไม่สมกับ 20MP เท่าไรอาจเป็นเพราะ Firmware ไม่สมบูรณ์เท่าที่ควร การถ่ายกลางคืนยังออกมาได้ดี ซูม 3 เท่ายังไม่ชัดเท่าที่ควร รออัพเดทต่อไป
- หน้าจอที่เป็น Triluminos เหมือนกับ Z Ultra เเต่ Z1 กลับสว่างกว่าทำให้เวลาเอียงดูเเสงจะจ้าเป็นสีขาวเหมือนกับตอน Z
- ลำโพงที่ดังเเต่เสียงยังออกทุ้มๆอยู่ไม่ใสเท่าที่ควรอาจเป็นเพราะคุณสมบัติกันน้ำของมัน
- ขอบจอที่หนาทำให้เครื่องดูใหญ่ขึ้นมากกว่า Z เเละยาวกว่าด้วย
- ปุ่ม Power ที่เล็กลงกว่า Z เเละ Z Ultra ให้ความรู้สึกที่กดยากกว่าเดิม ไม่เต็มนิ้วเหมือน Z
- Superior Auto ที่ยังไม่เจ๋งเท่าที่ควร การวัด White Balance ยังเพี้ยนอยู่บ้าง
Xperia Z1 เป็นเรือธงท้ายปีที่คุ้มค่ากับการรอคอย ทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆเเละการพัฒนาส่วนต่างๆที่เป็นข้อบกพร่องต่อยอดจาก Xperia Z
สำหรับคนที่ยังใช้ Xperia Z เเล้วพอใจกับกล้องของมัน เเละคิดว่าจอของ Xperia Z ยังสวยอยู่ Z1 ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่จะเปลี่ยนเครื่องใหม่
เเม้จะมีลูกเล่นเเละฟีเจอร์ใหม่ๆ เเต่ความรู้สึกในการใช้งานยังไม่ต่างจาก Xperia Z เท่าไร กล้อง 20MP ที่ยังทำออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
เเต่น่าจะเป็นที่ซอฟเเวร์ยังไม่สมบูรณ์ รอโซนี่อัพเดตซักพักน่าจะโอเคขึ้น สำหรับใครที่สนใจ Xperia Z1 เจอกันครั้งเเรกในงาน
Thailand Mobile Expo 2013 Showcase ในวันที่ 3-6 ตุลาคม นี้โดยตัวเครื่องที่เข้ามาขายจะมีทั้งหมด 3 สี ดำ, ขาว, ม่วง โดยเป็นเครื่อง 3G
ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 20,990 บาท โดยภายในงานจะมีโปรโมชั่นอะไรหรือของเเถมอะไรบ้าง เดียวเราจะมาอัพเดตกันอีกทีครับ 😀
ขอบคุณภาพสวยๆจาก Facilmente FotoJ Studio
- ประทับใจสุดๆ
- ดีจังเลย
- โกรธสุดๆ
- เฉยๆ อ่ะ
- รู้สึกหดหู่

ชื่นชอบ Gadget และเทคโนโลยีต่าง ๆ เป็นชีวิตจิตใจ พยายามหาอุปกรณ์ใหม่ เพื่อช่วยให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้น