นายคาซูโอะ ฮิราอิ
นายคาซูโอะ ฮิราอิ

นายคาซูโอะ ฮิราอิ

เมื่อวานมีข่าวออกมามากมายโดยพาดหัวข่าวประมาณว่า “Sony กำลังพิจารณาการขายกิจการ TV และ Mobile ทิ้ง” จากสื่อรายใหญ่ๆของไทยและต่างประเทศ สร้างความตกใจให้กับเหล่าสาวก Sony และผู้ที่กำลังตัดสินใจจะซื้ออุปกรณ์ของ Sony เป็นอย่างมาก แต่แท้จริงแล้วที่มาของข่าวสารนี้มาจากรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ฉบับนี้ และข้างล่างนี้คือคำแปลของบทความฉบับภาษาไทย

 

ซีอีโอ Sony กำลังมองตัวเลือกหลังถูกกดดันจากกิจการ TV และ Mobile ที่กำลังอ่อนแอ

 

รอยเตอร์ – นายคาซูโอะ ฮิราอิ ซีอีโอบริษัท Sony ได้ผ่านวิกฤตการณ์ที่ Sony Pictures และภาพยนตร์ตลกเรื่อง “The Interview” ถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ แต่ทว่าช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดอาจจะกำลังใกล้เข้ามาเมื่อเขาเตรียมตัวที่จะเริ่มแผนการใหม่ในการคืนชีพกิจการของบริษัท

 

ภายหลังจากที่ล้มเหลวในการพลิกสถานการณ์ของ Walkman หลังเข้ามารับตำแหน่งในเดือนเมษายนปี 2012 นายฮิราอิและลูกน้อง ณ ตอนนี้กำลังเปิดกว้างต่อตัวเลือกต่างๆซึ่งรวมไปถึงการขายและการหาหุ้นส่วนใน กิจการ TV และโทรศัพท์มือถือที่กำลังขาดทุน เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่คุ้นเคยกับความคิดของผู้บริหารเป็นผู้ให้ความเห็นนี้

 

Sony ซึ่งได้มีการปรับลดการคาดการณ์ผลกำไรลง 6 ครั้งภายใต้การกุมบังเหียนของนายฮิราอิ ได้คาดการณ์ว่าในปีงบประมาณนี้ (สิ้นสุดเดือนมีนาคม) จะขาดทุนสุทธิ 230,000 ล้านเยน (1,900 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ) และจะงดจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกหลังจากที่สมาร์ทโฟนขาดทุนอย่างหนัก

 

ผู้บริหารของ Sony เข้าใจดีว่า “ไม่มีธุรกิจใดที่เป็นนิรันดร์” แหล่งข่าวหนึ่งบอกกับรอยเตอร์ ถึงแม้ว่ายังไม่มีการเจรจาใดๆเกิดขึ้น แต่เขาก็เสริมว่า “ทุกหน่วยงานในตอนนี้จำเป็นจะต้องเข้าใจว่า Sony สามารถจะออกจากกิจการใดก็ได้”

 

ปีที่แล้ว Sony ขายกิจการคอมพิวเตอร์ส่วนตัว Vaio ออกไป และลดจำนวนพนักงานของฝ่าย TV ลงไปอีก 5,000 ราย หลังจากที่เคยลดไป 10,000 รายในช่วงที่นายฮิราอิเข้ามาดำรงตำแหน่งในช่วงแรก

 

ถึงแม้ว่านักวิเคราะห์จำนวนมากกล่าวว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เช่น การออกจากกิจการ TV ทว่านายฮิราอิได้ใช้เวทีของงาน Consumer Electronics Show (CES) ที่โด่งดังซึ่งจัดในลาสเวกัสเมื่อสัปดาห์ก่อนในการเปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ๆที่ รวมถึงโทรทัศน์รุ่นบางเฉียบและเครื่องเล่นเพลง Walkman ที่มีราคา 1,100 ดอลล่าร์สหรัฐ

 

เขาได้เน้นย้ำถึงความสำเร็จของเซนเซอร์ถ่ายภาพและ PlayStation 4 ของ Sony ด้วยการกล่าวว่าบริษัทได้ขายตัวเครื่องเกมดังกล่าวไปกว่า 18.5 ล้านเครื่องแล้ว ซึ่งนำหน้า Xbox One ของ Microsoft และ WiiU ของ Nintendo

 

Sony เคยปฏิเสธข้อเสนอที่ให้ทำสิ่งที่เด็ดขาดมาก่อน เช่น คำขอจาก Daniel Loeb ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ชื่อดังที่ให้ Sony ทำ Spin-off กิจการบันเทิงที่มีกำไรเพื่อที่จะเอาทุนไปยกเครื่องกิจการอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังเผชิญปัญหา

 

“การปฏิรูปครั้งใหญ่”

 

ในขณะที่เขากำลังเตรียมแผนฟื้นฟูใหม่สำหรับปีงบประมาณใหม่นี้ นายฮิราอิ วัย 54 ปี จำเป็นจะต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับกิจการที่มีปัญหาด้านการเงินที่ต้องมีการตัดลดต้นทุนครั้งใหญ่

เขากล่าวกับกลุ่มผู้สื่อข่าวจำนวนหนึ่งในงานที่ลาสเวกัสว่าการปฏิรูปของเขาได้สำเร็จแล้ว “ในบางส่วน แต่ส่วนอื่นๆยังไม่สำเร็จ”

 

นายฮิราอิกล่าวว่า “กิจการอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พร้อมกับกิจการบันเทิงและการเงินจะยังคงเป็นกิจการที่สำคัญ แต่ในกลุ่มนี้ก็มีบางส่วนที่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง และนั่นก็อาจจะเป็น TV หรือ Mobile เป็นต้น”

 

การตัดลดต้นทุนและการโฟกัสไปที่โทรศัพท์ระดับ High-end ที่เป็นกลยุทธของนายฮิโรกิ โทโทกิหัวหน้าแผนก Mobile คนใหม่ของ Sony ดูเหมือนจะยังไม่เพียงพอ นายโคตะ เอซาวะ นักวิเคราะห์จาก Citigroup ให้ความเห็น

 

“กิจการ Mobile และ TV จำเป็นจะต้องมีการยกเครื่องใหม่ทั้งคู่ หากไม่มีการปฏิรูปครั้งใหญ่เช่นหาผู้ร่วมทุนหรือพันธมิตร พวกมันจะต้องเจอกับตัวเลขสีแดงอีกในอีก 3 ปีนับจากนี้”

 

การออกจากกิจการ TV จะนำมาซึ่งต้นทุนการปรับโครงสร้างจำนวนมหาศาลและการขายที่สูญเสียไป ผู้ที่มีกำลังซื้อต่ออาจจะไม่ได้ต้องการทรัพย์สินทุกอย่างของทั้งแผนก

 

ในอีกฝั่ง คู่แข่งสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง Panasonic ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนโฟกัสจาก TV และเครื่องเล่น DVD มาเน้นในส่วนระบบสนับสนุนผู้ขับขี่พาหนะและเครื่องใช้ในบ้านแทนภายใต้การ บัญชาของซีอีโอ คาซูฮิโระ ซึกะ ผู้ซึ่งเข้ามารับตำแหน่งในช่วงเดียวกันกับนายฮิราอิ

 

“เดี๋ยวนี้ใครๆก็สามารถผลิต TV ได้” นายซึกะกล่าวหลังจากที่ไปเดินชมบูธของคู่แข่งในงาน CES “แต่คุณก็สามารถเห็นปรากฎการณ์เช่นนี้ในตลาดสมาร์ทโฟนด้วยเช่นกัน ไม่เพียงแค่ TV

 

Sony คาดว่าการตัด ค่าใช้จ่ายด้อยค่าความนิยม (Impairment charge) ของกิจการโทรศัพท์มือถือจะสูง 180,000 ล้านเยนหลังจากที่ประสบปัญหาในการแข่งขันกับคู่แข่งจากเอเชียที่ตัดราคาและ ล้มเหลวที่จะลดช่องว่างกับ Apple และ Samsung ในส่วนของสมาร์ทโฟนระดับ High-end

 

สภาวะที่ยากลำบากเช่นนี้เคยบังคับให้ Nokia ขายกิจการโทรศัพท์มือถือให้กับ Microsoft และหุ้นส่วนเก่าของ Sony อย่าง Ericsson ต้องขายหุ้นของตัวเองในปี 2012

เมื่อลองอ่านรายงานเต็มๆแล้วจะเห็นได้ว่าซีอีโอของบริษัทมีเพียงพูดว่าจะต้องดำเนินกิจการ TV และ Mobile อย่างระมัดระวัง ยังไม่มีคำพูดใดๆที่มาจากปากของผู้บริหารระดับสูงว่าจะขายกิจการ TV และ Mobile ทิ้งตามที่สื่อหรือ Blog บางรายตีความเอง การที่สื่อหลายๆรายพาดหัวข่าวตามที่กล่าวในตอนแรกก็เพราะเลียนแบบตามๆกันมาจากเว็บไซต์ข่าวแอนดรอยด์ชื่อดังของต่างประเทศ ซึ่งสื่อของไทยก็ไปนำเอาข่าวจากแหล่งข่าวเหล่านั้นมาแปล ดังนั้นยังไม่มีอะไรที่น่าตกใจ เพื่อนๆยังไม่ต้องกังวลกันนะครับ

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่