เมื่อต้นเดือนนี้ Sony Mobile ได้เปิดตัว Xperia XZ และ Xperia X Compact สมาร์ทโฟนเรือธง 2 ไซส์ที่มาพร้อมเทคโนโลยีกล้องแบบจัดเต็ม ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ ePrice เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีจากไต้หวันได้รับเชิญให้ไปร่วมงานบรรยายเทคโนโลยีกล้อง Xperia ที่จัดโดย Sony Mobile และยังมีโอกาสได้ร่วมทดสอบ Xperia XZ ด้วย ซึ่งพวกเขาก็ไม่พลาดที่จะลองถ่ายรูปแล้วนำมาเทียบกับ iPhone 6s Plus เราจะพาไปดูกันว่า Xperia XZ จะทำได้ดีเพียงใด เมื่อเทียบกับคู่แข่ง บทความนี้จะพาเพื่อนๆไปชมความงามของ Xperia XZ, คุณภาพรูปจากกล้อง และการทดสอบถ่ายวิดีโอโดยใช้ระบบป้องกันสั่น 5 แกน
▲ Xperia XZ มาพร้อมหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว หากเคยใช้ Xperia Z5 Premium มาก่อนแล้วรู้สึกว่าจอ 5 นิ้วของ Xperia X Performance เล็กเกินไป ก็ลองมอง Xperia XZ ไว้เป็นตัวเลือกนะ
▲ Forest Blue สีใหม่ที่ไม่เคยปรากฏบน Xperia มาก่อน ตัวเครื่องทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยชนิดใหม่ที่มีชื่อเรียกว่า ALKALEIDO ซึ่งแข็งแกร่งกว่าอะลูมิเนียมทั่วไป
▲ ในครั้งนี้ กล้องหลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ นอกจากจะใช้เซนเซอร์ Exmor RS ความละเอียด 23MP พร้อมเลนส์ G เหมือนเดิมแล้ว ด้านล่างยังใส่เลเซอร์โฟกัส และเซนเซอร์ RGBC-IR สำหรับตรวจจับสีเพิ่มเข้ามาด้วย
▲ หากสังเกตดีๆจะพบว่า ขอบหน้าจอของ Xperia XZ มีการโค้งลงแบบ 2.5D นิดๆ เพราะว่าครั้งนี้พวกเขาใช้ดีไซน์โค้งแบบ Loop surface ที่ให้ความรู้สึกเหมือนหน้าจอโอบล้อมตัวเครื่องไว้
▲ ดีไซน์ด้านหลังก็เป็นแบบเดียวกัน ด้านล่างของตัวเครื่องมีแถบสี่เหลี่ยมผืนผ้าเล็กๆที่มีสีแตกต่างจากฝาหลัง ในส่วนนี้เนื่องจากเป็นตำแหน่งของเสาสัญญาณต่างๆ จึงจำเป็นต้องเลือกใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกแทน เพื่อให้สัญญาณผ่านไปได้ง่าย
▲ โลโก้ XPERIA ด้านหลังใช้เลเซอร์สลักลงไป เช่นเดียวกับ Xperia X Performance
▲ เครื่องที่นำมาให้สื่อไต้หวันทดสอบเป็นรุ่น dual SIM ซึ่งประเทศไทยก็จะจำหน่ายรุ่นนี้เช่นกัน โดยมาพร้อมความจำภายใน 64GB และช่อง SIM 2 ยังคงเป็นแบบให้เลือกระหว่างใส่ SIM หรือ micro SD card เช่นเคย
▲ ด้านข้างขวาของตัวเครื่องมีปุ่มพาวเวอร์ที่มีตัวสแกนลายนิ้วมือฝังอยู่ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่มชัตเตอร์
▲ Xperia XZ เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ SONY ที่มาพร้อมพอร์ต USB Type-C
▲ มุมบนซ้ายด้านหน้าตัวเครื่องมี NFC ติดตั้งอยู่ ส่วนข้างๆเป็นกล้องหน้าความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
▲ มุมล่างด้านหน้าตัวเครื่องเป็นรูไมโครโฟนและลำโพงตัวล่าง ส่วนปุ่ม navigation ยังคงเป็นแบบ on-screen เหมือนรุ่นอื่นๆ
กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68 ถ่ายวิดีโอใต้น้ำ? ไม่มีปัญหา!
เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนกันน้ำ เชื่อว่าหลายๆคนก็คงนึกถึง Xperia ซึ่ง Xperia XZ เองก็ยังคงไว้ซึ่งฟีเจอร์การกันน้ำตามแบบฉบับของอุปกรณ์เรือธงของ Sony โดยยังคงมาพร้อมมาตรฐาน IP65/68 เหมือนเดิม แม้ว่าจอทัชสกรีนจะไม่สามารถทำงานได้เมื่ออยู่ในน้ำ แต่ปุ่มชัตเตอร์ของตัวเครื่องยังคงสามารถทำหน้าที่ของมันได้ ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่ Xperia X เป็นต้นมา Sony ได้ปรับปรุงลำดับการทำงานของกล้องใหม่ ทำให้สามารถเปิดกล้องขึ้นมาถ่ายด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์ได้อย่างรวดเร็วภายใน 0.6 วินาที แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้เมื่ออยู่ใต้น้ำก็สามารถทำงานได้เช่นกัน
▲ Xperia XZ สามารถกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP68 ดังนั้นแค่น้ำกระเด็นใส่หรือจะทำตกลงไปในน้ำก็ไม่เป็นปัญหา
▲ Xperia XZ ถ่ายวิดีโอใต้น้ำ
ชุดชิพประมวลผลที่ติดตั้งบน Xperia XZ เป็น Snapdragon 820 เช่นเดียวกันกับ Xperia X Performance และยังใช้ RAM 3GB เหมือนกันอีกด้วย ซึ่ง Snapdragon 820 ยังคงมีประสิทธิภาพระดับท็อปในตลาดขณะนี้ เพียงพอต่อการใช้งานทุกประเภทอย่างแน่นอน
▲ ผลทดสอบ AnTuTu Benchmark ของ Xperia XZ แสดงให้เห็นคะแนนที่สูสีกับสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นอื่นๆที่ใช้ SD820 เหมือนกัน
แนะนำฟีเจอร์แอพกล้องและตัวอย่างภาพถ่าย
และแล้วสิ่งที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง! อย่างไรก็ตาม ต้องขอเตือนไว้ก่อนว่า ขณะนี้ Xperia XZ ยังไม่ได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ดังนั้นเฟิร์มแวร์ของตัวเครื่องอาจจะยังไม่ใช่เวอร์ชั่นสมบูรณ์ ไม่รู้ว่าประสิทธิภาพของเครื่อง demo กับเครื่องที่จะวางจำหน่ายจะแตกต่างกันหรือไม่ แต่ก็น่าจะพอใช้พิจารณาได้อยู่
ในส่วนของกล้อง ในที่สุด Sony ก็ยอมให้ผู้ใช้เข้าถึงการตั้งค่าแบบ full manual โดย Xperia XZ สามารถปรับความเร็วชัตเตอร์ (ช้าสุด 1 วินาที), ISO, White balance และการชดเชยแสงได้ตามใจชอบ นั่นทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างสรรค์ผลงานจากกล้องของ Xperia ได้หลากหลายมากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ Xperia รุ่นเก่าๆอาจจะผิดหวัง เนื่องจากวิศวกรของ Sony ได้ระบุว่า ในขณะนี้ยังไม่มีแผนในการเพิ่มการปรับความเร็วชัตเตอร์ในโหมด manual สำหรับรุ่นเก่าๆ ดังนั้นในขณะนี้จึงมีเพียงแค่ Xperia XZ และ Xperia X Compact เท่านั้นที่มีฟีเจอร์นี้ แต่ผู้เขียนคิดว่า Xperia X และ Xperia X Performance น่าจะได้ฟีเจอร์ดังกล่าวด้วยในอนาคต
▲ ภายในโหมด Manual เมื่อกดที่ “SS” จะสามารถปรับ Shutter speed ได้ตั้งแต่ 1/4000 วินาที จนถึง 1 วินาที
มีคนถามเข้ามาว่า สามารถตั้งค่า ISO และความเร็วชัตเตอร์พร้อมกันได้หรือไม่? ผู้เขียนได้ทดสอบให้แล้วพบว่า เมื่อตั้งค่า ISO เป็นค่าใดๆก็ตาม ความเร็วชัตเตอร์จะเปลี่ยนกลับไปเป็น Auto โดยอัตโนมัติ หรือก็คือ ISO และความเร็วชัตเตอร์ไม่สามารถตั้งค่าพร้อมกันได้ ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน
Xperia XZ ก็เหมือนกับรุ่นก่อนๆ ถึงแม้ว่าความละเอียดสูงสุดจะเลือกได้ถึง 23 ล้านพิกเซล แต่ว่าเมื่อเลือกความละเอียดสูงสุดจะไม่สามารถเลือก Scene mode ได้ ต้องปรับลดความละเอียดเหลือ 8 ล้านพิกเซลจึงจะสามารถทำได้ ซึ่งผู้ใช้ Xperia หน้าเก่าก็คงจะชินกับเรื่องนี้ไปแล้วล่ะ
▲ หากจะเลือก Scene mode จำเป็นจะต้องปรับความละเอียดลดเหลือ 8 ล้านพิกเซล
▲ ถ้าไม่ลดความละเอียด ก็จะไม่สามารถปรับ Scene mode ได้
▲ Scene mode มีให้เลือกทั้งหมด 17 แบบ เหมือนเดิม
Predictive Hybrid Autofocus และป้องกันสั่นวิดีโอด้วย EIS แบบ 5 แกน
ฟีเจอร์ Predictive Hybrid Autofocus เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ชูโรงของ Xperia X Performance ซึ่งช่วยให้สามารถจับโฟกัสวัตถุเคลื่อนไหวได้อย่างแม่นยำ ไม่หลุดโฟกัส ในครั้งนี้ได้กลับมาอีกครั้งโดยมีตัวช่วยอย่าง Laser Autofocus ที่จะช่วยให้การโฟกัสในสภาพแสงน้อยทำได้แม่นยำยิ่งกว่าเดิม เนื่องจากเลเซอร์จะถูกยิงออกไปโดยอัตโนมัติเพื่อทำการวัดระยะห่างของวัตถุเพื่อลดขั้นตอนและเวลาที่ใช้ในการจับโฟกัส
▲ เมื่อเลือกวัตถุที่ต้องการโฟกัสแล้ว กรอบโฟกัสจะติดตามวัตถุดังกล่าวตลอดเวลาจนกว่าจะออกจากกล้องไป ไม่ว่าจะถ่ายภาพนิ่งหรือวิดีโอก็ตาม นี่เป็นหนึ่งในจุดเด่นในการถ่ายภาพของ Sony Xperia
▲ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องพึงระวังก็คือ หากตัวเครื่องมีความร้อนสูงเกินไป ฟีเจอร์ดังกล่าว ฟีเจอร์เลือก scene mode อัตโนมัติ และการตรวจจับใบหน้าจะหยุดการทำงานลง ต้องรอให้ตัวเครื่องเย็นลงก่อนจึงจะสามารถใช้งานต่อได้
นอกจากนี้ระบบป้องกันสั่นแบบ 5 แกนยังได้ถูกเพิ่มเข้ามาด้วย จากเมื่อก่อนที่ SteadyShot ทำงานด้วยระบบป้องกันสั่นแบบ 3 แกน ครั้งนี้ได้เพิ่มการป้องกันสั่นในแกน X และ Y เข้ามาด้วย ซึ่งเมื่อลองทดสอบการถ่ายวิดีโอแล้วพบว่า ระบบกันสั่นทำได้ดีขึ้นยิ่งกว่าเดิมจริงๆ เมื่อทำการถ่ายวิดีโอโดยที่เคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ภาพที่ได้กลับนิ่งราวกับใช้ stabilizer ติดที่กล้องระหว่างที่ถ่ายเลย ดังนั้นถ้าต้องการถ่ายวิดีโอไปใช้งานแบบจริงจัง วิดีโอจาก Xperia XZ ก็ถือว่าใช้ได้เลย
▲ นี่คือคลิปที่ถ่ายโดย Xperia XZ ที่ติดตั้งอยู่บนแฮนด์จักรยาน
▲ คลิปจากสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นที่ถ่ายพร้อมๆกับคลิปบน
เมื่อดูคลิป 2 อันด้านบนแล้ว จะพบความแตกต่างอย่างมากระหว่างอุปกรณ์ทั้ง 2 โดย Xperia XZ ที่มีระบบกันสั่นแบบ 5 แกนแทบจะสามารถลดความสั่นสะเทือนไปได้จนหมดเลย แต่คลิปจากอีกยี่ห้อนั้นสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่ค่อนข้างจะรุ่นแรงได้อย่างชัดเจน จะเห็นได้ว่า ในสภาพที่เป็นปัญหาเช่นนี้ Xperia XZ ยังสามารถถ่ายวิดีโอที่มีคุณภาพน่าพอใจได้อยู่ อย่างไรก็ตาม ระบบป้องกันสั่น 5 แกนนั้นสามารถทำงานได้เมื่อถ่ายวิดีโอเท่านั้น ในการถ่ายภาพนิ่งนัั้นไม่สามารถเปิดใช้งานได้
▲ ในโหมดการถ่ายวิดีโอปกติ สามารถเลือกความละเอียดได้สูงสุดที่ Full HD 1080p แบบ 60 เฟรมต่อวินาที
▲ ตัวเลือก “Intelligent Active” ก็คือการเปิดใช้งานระบบป้องกันสั่นแบบ 5 แกนนั่นเอง
▲ หากต้องการถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ต้องเปลี่ยนไปใช้แอพ 4K ถ่าย
▲ แต่ว่าในแอพ 4K มีตัวเลือกให้ปรับเพียงน้อยนิด
เซนเซอร์ตรวจจับสี RGBC-IR ช่วยให้ White Balance ตรงยิ่งขึ้น
เซนเซอร์อินฟาเรดตรวจจับสี RGBC-IR เป็นอีกหนึ่งฮาร์ดแวร์ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน Xperia XZ จุดประสงค์ก็เพื่อแก้ไขปัญหาการปรับ white balance อัตโนมัติที่บางครั้งมีการทำงานผิดพลาด เนื่องจากปกติแล้วในสภาพแวดล้อมทั่วไป แสงจากแหล่งต่างๆส่องไปยังวัตถุที่แตกต่างกันออกไปแล้วสะท้อนกลับมาจะทำให้การวิเคราะห์ white balance ผิดพลาด แต่เมื่อมี RGBC-IR เพิ่มเข้ามาแล้ว จะสามารถตรวจจับแสงที่ไม่สามารถมองเห็นได้ แล้วนำมาร่วมวิเคราะห์เพื่อเลือก white balance ที่เที่ยงตรงที่สุด
▲ ภาพซ้ายถ่ายด้วย Xperia XZ ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 6s Plus
▲ ภาพซ้ายถ่ายด้วย Xperia XZ ภาพขวาถ่ายด้วย iPhone 6s Plus
ภาพทั้ง 2 ชุดด้านบนถ่ายด้วยโหมดออโต้ของแต่ละรุ่น โดยระหว่างถ่ายสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าความเร็วการปรับ white balance ของ Xperia XZ รวดเร็วมาก โดยเฉพาะเมื่อควักออกจากกระเป๋าแล้วโฟกัสเพื่อถ่ายในทันที ส่วน iPhone 6s Plus ต้องใช้เวลานานกว่าเล็กน้อย แต่เมื่อโยกไปโยกมาในบริเวณรอบข้างแล้วก็สามารถปรับได้ค่อนข้างตรง
▲ ผู้ที่ต้องการจะเปิดกล้องขึ้นมาเตรียมถ่ายด้วยความเร็วสูง ให้ปรับในหน้าตั้งค่าภายในแอพกล้องตรงหัวข้อ Quick launch ให้เลือกเป็น “Launch only” เมื่อหยิบเครื่องออกมาจากกระเป๋า กดปุ่มชัตเตอร์ ก็จะเปิดเข้าแอพกล้องในทันที
เปรียบเทียบภาพถ่าย Xperia XZ VS iPhone 6s Plus
เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ ท่านผู้อ่านหลายๆคนคงจะอยากรู้กันแล้วว่าคุณภาพของภาพถ่ายที่ได้จาก Xperia XZ จะดีแค่ไหนกันนะ? ผู้เขียนได้ทำการทดสอบการถ่ายภาพโดยใช้ iPhone 6s Plus ถ่ายภาพในมุมเดียวกันเพื่อมาใช้เปรียบเทียบให้เห็นภาพ แน่นอนว่าแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป ดังนั้นจึงเพียงแค่นำภาพจาก iPhone มาใช้เพื่อประกอบการพิจารณาคุณภาพของ Xperia XZ เท่านั้น มิได้มีเจตนาจะนำมาหาผู้ชนะ
ภาพทุกใบข้างล่างนี้ถ่ายด้วยโหมดออโต้ หากใช้ Xperia XZ ถ่ายด้วยความละเอียด 8 ล้านพิกเซลจะระบุไว้ชัดเจน เพื่อนๆสามารถคลิกที่รูปเพื่อชมภาพขนาดเต็ม
▲ ซ้าย: Xperia XZ (23 ล้านพิกเซล) ขวา: iPhone 6s Plus
▲ ซ้าย: Xperia XZ (23 ล้านพิกเซล) ขวา: iPhone 6s Plus
▲ ซ้าย: Xperia XZ (23 ล้านพิกเซล) ขวา: iPhone 6s Plus
▲ ซ้าย: Xperia XZ (23 ล้านพิกเซล) ขวา: iPhone 6s Plus
▲ ซ้าย: Xperia XZ (23 ล้านพิกเซล) ขวา: iPhone 6s Plus
▲ ซ้าย: Xperia XZ (23 ล้านพิกเซล) ขวา: Xperia XZ (8 ล้านพิกเซล)
▲ iPhone 6s Plus
จากภาพข้างบนนี้ จะสังเกตได้ว่า ในด้านภาพจาก Xperia XZ สีเขียวของใบไม้ในภาพวิวทิวทัศน์มีความเอิบอิ่ม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของกล้อง Sony และเมื่อประกอบกับความสามารถของเซนเซอร์ตรวจจับสี RGBC-IR ที่เพิ่มเข้ามา ทำให้สีเขียวแบบนี้ไม่ได้เกิดจากการที่ white balance เพี้ยนเป็นสีเขียว และภาพรวมนั้นให้ความรู้สึกที่ดูดี นอกจากนี้ ในด้านการถ่ายภาพในที่แสงน้อยที่ทุกคนสนใจนั้น เมื่อถ่ายด้วยภาพความละเอียดสูงจะปรากฎ noise จำนวนมาก ซึ่งเป็นจุดด้อยของการถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูง แต่หากปรับความละเอียดลงมาเหลือ 8 ล้านพิกเซล จะได้รายละเอียดที่สูสีกับภาพความละเอียด 12 ล้านพิกเซลจาก iPhone 6s Plus เลย แต่ดูเหมือนจะเร่งความคมให้เกินจริงไปเสียหน่อย แต่ก็ไม่ทำให้ภาพเสียหาย
ภาพถ่ายอื่นๆจาก Xperia XZ
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ โหมด auto SCN ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
▲ โหมด auto SCN ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
▲ โหมด auto SCN ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
▲ Superior Auto ความละเอียด 23 ล้านพิกเซล
ที่มา: ePrice
- ประทับใจสุดๆ
- ดีจังเลย
- โกรธสุดๆ
- เฉยๆ อ่ะ
- รู้สึกหดหู่
สาวกอารยธรรมผู้คลั่งไคล้ทุกสรรพสิ่งที่ติดโลโก้ SONY.
