ถือเป็นเรื่องลึกลับน่าพิศวงอันดับต้นๆของวงการ – เหตุใด Sony ผู้ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการผลิตกล้อง mirrorless มานานหลายปี ทำไมถึงไม่นำเทคโนโลยีของพวกเขามาใส่ในกล้องสมาร์ทโฟนของตนเอง?

    ไม่ได้หมายความว่ากล้องของ Xperia XZ2 Premium ไม่ดีแต่อย่างใด ทางรีวิวหลายๆสำนักได้กล่าวว่ากล้องของมันดีแต่ยังตามหลังกลุ่มผู้นำตลาดอยู่เล็กน้อย แต่ฟีเจอร์อย่างระบบป้องกันสั่น OIS และระบบ autofocus ของกล้อง Alpha ที่ไม่ได้ถูกใส่เข้ามานั้น ทำให้ Xperia สูญเสียโอกาสไปมากมาย เพราะขนาดโทรศัพท์ยี่ห้ออื่นๆ เช่น Google Pixel 3 ยังสามารถร่ายมนตร์ที่ทำให้คนต้องทึ่งบนเซ็นเซอร์ Exmor ของ Sony เอง

    ข่าวดีก็คือ ในที่สุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นแล้ว เริ่มต้นที่ Xperia 1 ทางเว็บไซต์ Trusted Reviews ระบุว่า พวกเขายังไม่ได้ลองทดสอบกล้องแบบเต็มที่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นจุดเปลี่ยนของ Sony ที่รอคอยมานาน ตามที่นาย Adam Marsh ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาดทั่วโลกของ Sony ได้ยืนยันระหว่างพูดคุยกับเว็บไซต์ดังกล่าวภายในงาน Mobile World Congress 2019

    หากลองมองไปที่รายละเอียดสเปคของ Xperia 1 ก็จะสามารถเห็นได้เลยว่าพวกเขาได้เลิก”กั๊ก”กล้องของ Xperia แล้ว มีกล้องหลัง 3 ตัว (ครั้งแรกของ Sony), พิกเซลที่ใหญ่ขึ้น, ระบบป้องกันสั่น OIS, Eye AF (ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบติดตามดวงตา) จากกล้อง Alpha และแอปใหม่ Cinema Pro ที่ทำให้คุณสามารถถ่ายวิดีโอแบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนภาพยนตร์ซึ่งมาจาก CineAlta ฝ่ายกล้องวิดีโอระดับมืออาชีพของพวกเขา

    แล้วทำไม Sony ถึงใช้เวลาตั้งนานกว่าจะสามารถจัดเต็มกับกล้องสมาร์ทโฟนของตนเองได้? แล้วนี่เป็นจุดเริ่มต้นของการมุ่งยังจุดหมายที่ชื่อ สมาร์ทโฟน Alpha หรือเปล่า? Trusted Reviews ได้พูดคุยกับ Adam Marsh เพื่อหาคำตอบเหล่านี้

 

การมาถึงของ Eye AF

    แน่นอนว่า Xperia 1 ยังห่างไกลกับการจะเรียกตัวเองว่าเป็นกล้อง Sony RX100 VI ในร่างโทรศัพท์ แต่อย่างน้อยมันก็ได้เริ่มก้าวแรกๆอย่างมั่นคง

    อันดับแรกก็คือ Eye AF ฟีเจอร์ที่ปรากฎตัวครั้งแรกบนกล้อง Alpha ของ Sony โดยถึงแม้เวอร์ชั่นบน Xperia จะยังไม่ได้อัจฉริยะเท่าบนกล้อง เช่น ไม่สามารถล็อกดวงตาของบุคคลเมื่อเดินผ่านฝูงชน หรือใช้กับดวงตาสัตว์อย่างที่พวกเขาใส่ไว้ในกล้องรุ่น A6400 แต่ว่ามันก็ถือว่ามีประโยชน์ในการถ่าย portrait และเป็นสัญลักษณ์ที่เผยให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของฝ่ายโทรศัพท์กับฝ่ายกล้องที่ดูจะสนิทสนมกันมากขึ้น

    Sony ยังได้ใส่ฟีเจอร์การถ่ายภาพต่อเนื่อง (Burst) 10fps (10 ภาพต่อวินาที) พร้อมระบบ autofocus ติดตามลงมาใน Xperia 1หากคุณลองเปรียบเทียบ burst mode กับ Xperia XZ2 เมื่อคุณซูมดูจะเห็นว่ามันอาจหลุดโฟกัส ในขณะที่ Xperia 1 จะจับให้วัตถุอยู่ในโฟกัสและสีกับคอนทราสต์ก็ยังถูกรักษาไว้ได้ดี” นาย Adam Marsh กล่าว

    Xperia 1 ยังทำการประมวลผลภาพถ่ายด้วยวิธีเดียวกับกล้อง Alpha นาย Adam Marsh เผย “โดยปกติแล้วเมื่อคุณถ่ายภาพ โทรศัพท์จะบีบย่อไฟล์ลงไปเป็น JPEG แล้วตามด้วยการลด noise แต่วิธีที่ Alpha ทำนั้นคือ ถ่ายภาพเป็นไฟล์ RAW ใช้อัลกอริทึ่มในการลด noise บนภาพที่เป็นไฟล์ RAW จากนั้นบีบอัดลงมาเป็นไฟล์ JPEG แล้วจึงปิดท้ายด้วยการลด noise อีกครั้ง นั่นคือสิ่งที่ Alpha ทำ และจาก Xperia 1 เป็นต้นไป นี่ก็คือสิ่งที่ Xperia 1 จะทำเช่นกัน

   ดังนั้น ในแง่ของการจัดการ noise นั้น มันจะเป็นการปรับปรุงครั้งใหญ่แม้เทียบกับรุ่นอย่าง Xperia XZ2 Premium ก็ตาม มันจะเป็นก้าวใหญ่เลยล่ะ” เขาเสริม

    Marsh ยังได้คอนเฟิร์มฟีเจอร์หนึ่งที่สาวก Sony รอคอยมานานหลายปี คือการเข้าถึงไฟล์ RAW ของกล้อง Xperia เพื่อแต่งภาพ โดย Xperia 1 จะรองรับการถ่ายเป็นไฟล์ RAW เป็นครั้งแรก โดยเพื่อนๆจะสามารถนำมันไปแต่งได้ด้วยแอปต่างๆใน Play Store

 

การตัดสินใจอันรวดเร็ว

    รายการการปรับปรุงด้านฮาร์ดแวร์ใน Xperia 1 ยังมีอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้น (จาก 1.22μm เป็น 1.4μm) และรูรับแสง f/1.6 ที่กว้างขึ้น (จาก f/2.0 บน Xperia XZ3) ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้จะช่วยปรับปรุงคุณภาพทั้งการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอในที่แสงน้อย

    ทั้งหมดนี้กลับมายังคำถามแรกที่ว่า ทำไมก่อนหน้านี้ Sony ถึงไม่ทำสิ่งเหล่านี้? คำตอบที่อาจดูจืดชืดแต่เป็นสิ่งที่จำเป็นมากที่สุดก็คือการปรับปรุงโครงสร้างองค์กรของ Sony ในปี 2018 ที่นาย Kaz Hirai ประธานและ CEO ของบริษัทได้ก้าวลงจากตำแหน่งและรับช่วงต่อโดยนาย Kenichiro Yoshida

    และอีกสิ่งหนึ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือการที่นาย Kimio Maki กูรูแห่งฝ่ายกล้อง Alpha ได้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ Sony Mobile และได้สั่งหยุดการผลิตรุ่นที่เกือบจะกลายมาเป็น Xperia XZ3 “เขาพูดว่า ‘โอเค เราจะทำงานร่วมกับ Alpha ตรงนี้ เราจะเอาอันนี้มา และเราจะทำงานกับแบรนด์ CineAlta แล้วเอาอันนี้มา’ เขาได้เปิดประตูของฝ่ายกล้องทั้งหมดให้กับเรา

แอปใหม่ Cinema Pro ทำงานบน Sony Xperia 1.

   เพราะว่าเมื่อฝ่ายกล้องทั้งหมดทำงานร่วมกัน พวกเขาสามารถแบ่งปันประสบการณ์ระหว่าง Cybershot, Alpha และ XperiaMarsh เสริม ฟังดูเหมือนว่าเป็นวิธีการทำงานที่ดูสมเหตุสมผลและน่าจะออกดอกออกผลชั้นเลิศให้กับนักถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟน

    เช่นนั้นแล้ว เราสามารถอนุมานได้ว่า พวกเราจะได้เห็นฟีเจอร์อื่นๆของ Alpha ไหลทะลักเข้ามายัง Xperia?มันเป็นไปได้ หากมันเป็นซอฟต์แวร์ มันสามารถที่จะนำข้ามมาได้ การร่วมมือกับ Alpha คือจุดเปลี่ยน ต้องขอบคุณการเปลี่ยนแปลงระบบการบริหารที่เกิดขึ้นที่(สำนักงานใหญ่ใน)โตเกียว ตอนนี้ (กล้องของ) Mobile ได้อยู่ในความรับผิดชอบของฝ่ายกล้องแล้ว

    ก่อนหน้านี้มีปัญหาการแก่งแย่งชิงดีกันภายในทำให้ไม่สามารถเกิดความร่วมมือข้ามแผนก นาย Marsh ยอมรับ “ถึงแม้เราจะเป็นบริษัทเดียวกัน แต่บางครั้งมันมีกำแพงที่ฝั่ง Alpha ไม่อยากจะแบ่งบางอย่างให้กับ Mobile เพราะว่ามันจะทำให้คุณมีสิ่งเดียวกับที่กล้องราคา 3,000 ปอนด์ (ประมาณ 125,000 บาท) มี

   ตอนนี้กำแพงนั้นได้พังลงไปบ้างแล้ว พวกเขาพูดว่า ‘โอเค เราเห็นว่าการที่เรามีสมาร์ทโฟนและกล้องที่ให้ประสบการณ์ที่เหมือนๆกันนั้นเป็นเรื่องดี’” เขาเสริม

 

“เราไม่ใช่ Samsung”

    ถึงแม้จะมีการร่วมมืออย่างใกล้ชิดขึ้น แต่หลายๆคนแปลกใจที่ Xperia 1 ไม่มีเซ็นเซอร์ 48 ล้านพิกเซลที่พวกเขาผลิตให้สมาร์ทโฟนเน้นกล้องของยี่ห้ออื่นๆ อย่าง Honor View 20 และ Xiaomi Mi 9 แต่ Marsh ได้ระบุว่ามันเกิดจากการตัดสินใจที่ไตร่ตรองมาดีแล้ว ไม่ใช่ความความขัดแย้งทางผลประโยชน์ “ทีมกล้องของโตเกียวบอกว่า ‘โอเค เพราะว่าสิ่งที่เราอยากจะทำ หากมองดูในแง่มุมของคุณภาพ กล้อง 12 ล้านพิกเซล 3 ตัวจะให้คุณภาพที่ดีกว่ากล้อง 48 ล้านพิกเซลตัวเดียวเป็นอย่างมาก’” เขากล่าว

   โมดูลกล้อง 48 ล้านพิกเซลนั้น ยกตัวอย่างเช่น มันไม่มีหน่วยความจำ (DRAM) บนตัวเซ็นเซอร์ ดังนั้นคุณจะไม่สามารถถ่าย Super Slow Motion 960fps แบบที่เราสามารถทำได้ด้วยกล้อง 12 ล้านพิกเซล นั่นก็คือตัวอย่างหนึ่งที่ทำให้เราคิดว่า ‘โอเค คุณเอานี่ไปได้ แต่ก็จะเสียอันนี้ไป’ ซึ่งขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นและรูรับแสงที่ใหญ่ขึ้นก็คือผลลัพธ์ที่ได้จากการที่เราเลือกใช้เซ็นเซอร์นี้

    อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะมีการปรับปรุงฮาร์ดแวร์เช่นนี้ แต่การแข่งขันของตลาดกล้องสมาร์ทโฟนนั้นดุเดือดดั่งทะเลเพลิง ทำไมคนถึงต้องเลือกซื้อ Xperia 1 แทนที่จะซื้อของคู่แข่ง? “แบรนด์ Sony คงจะไม่ได้ดึงดูดทุกคน พวกเราไม่ใช่ Samsung พวกเราไม่ใช่ Huawei แต่พวกเราจะดึงดูดกลุ่มคนที่ต้องการผลิตภัณฑ์คุณภาพที่พวกเขาสามารถใช้เพื่อถ่ายภาพและวิดีโอได้อย่างยอดเยี่ยม หรือทำสิ่งที่แตกต่าง” เขากล่าว

   จุดขายที่โดดเด่นของเราจะเป็นหน้าจอและกล้อง หน้าจอจาก Bravia และกล้องจาก Alpha แม้คู่แข่งทั้งหลายจะมีจุดขายหลักแตกต่างกันออกไปซึ่งสามารถดึงดูดลูกค้าจำนวนหนึ่ง แต่สำหรับเรา คือ กลุ่มคนที่รู้จักการถ่ายภาพของตัวเองดีและกลุ่มคนที่ต้องการจะซื้อเพื่อเข้าสู่ ecosystem กล้องใหญ่ของ Sony ก็จะซื้อ Xperia 1

    แน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องที่ยังต้องคอยจับตาดูกันต่อไป แต่ดูเหมือนว่า Xperia 1 จะมีโอกาสที่ดีในการตอบสนองความต้องการของสาวก Xperia ปัจจุบันและเปลี่ยนผู้ใช้หน้าใหม่จำนวนหนึ่งให้กลายมาเป็นสาวก อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เรื้อรังของกล้องสมาร์ทโฟนของ Sony ส่วนใหญ่มาจากปัญหาทางซอฟต์แวร์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องดีที่ได้เห็นการผนึกกำลังของระบบ Eye AF และแอป Cinema Pro ร่วมกับเอ็นจิ้นประมวลผลภาพ Bionz X for Mobile

ที่มา: Trusted Reviews

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่