หลังจากที่มีภาพเรนเดอร์และวิดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์หลุดออกมาล่วงหน้าเป็นเดือน ในที่สุดบ่ายวันนี้ Sony ก็ได้ประกาศเปิดตัว Xperia 5 II (เอ็กซ์พีเรีย ไฟว์ มาร์คทู) เรือธงไซส์เล็กรุ่นใหม่ประจำปี 2020 อย่างเป็นทางการแล้ว โดยยังคงคอนเซปต์เดิม คือ ยกฟีเจอร์ส่วนใหญ่จาก Xperia 1 II มาใส่ไว้ในตัวเครื่องที่กะทัดรัด พกพาได้สะดวก

    Xperia 5 II ยังคงใช้ดีไซน์คล้ายกับ Xperia 5 เมื่อปีที่แล้ว โดยวัสดุที่ใช้เป็นกระจก Corning Gorilla Glass 6 ทั้งด้านหน้าและหลัง ส่วนเฟรมเครื่องเป็นอะลูมิเนียมเหมือนเช่นเคย หน้าจอและด้านหลังแบนเรียบ แต่มีส่วนนูนเล็กน้อยที่บริเวณโมดูลกล้อง เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือกับปุ่มพาวเวอร์รวมเป็นปุ่มเดียวกันอยู่ทางข้างขวาของตัวเครื่อง ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงอยู่ถัดมาทางด้านบน และยังคงมีปุ่มชัตเตอร์เหมือนเช่นเคย แต่มีปุ่มที่คาดว่าจะเป็นปุ่มลัดสำหรับตั้งค่าเรียกใช้งานแอพต่างๆเพิ่มเข้ามา โดยพวกเขาไม่ได้พูดถึงปุ่มใหม่นี้เลยทั้งในงานเปิดตัวและบนหน้าเว็บไซต์ผลิตภัณฑ์ สำหรับรุ่นนี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ สีเทา สีน้ำเงิน และสีชมพู ซึ่งด้านหน้าจะเป็นสีดำทั้งหมด

    Xperia 5 II มาพร้อมหน้าจอ OLED Full HD+ ขนาด 6.1 นิ้ว อัตราส่วน 21:9 CinemaWide ที่มี refresh rate สูงถึง 120Hz (สามารถเปิด motion blue reduction เพื่อให้เทียบเท่า 240Hz) และอัตราการตอบสนองการสัมผัสหน้าจอสูงถึง 240Hz ทำให้นอกจากภาพจะลื่นไหลแล้ว การทัชก็ติดนิ้วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่มีบน Xperia 1 II แต่ก็เป็นเพราะ Xperia 5 II นั้นไม่ได้มีความละเอียดหน้าจอ 4K

    หน้าจอยังคงรองรับ HDR 10-bit และมีเอ็นจิ้นจัดการภาพ X1 for mobile ที่ร่วมมือกับฝ่าย Bravia และโหมด Creator mode ที่เกิดจากการร่วมมือกับฝ่าย CineAlta สามารถแสดงผลภาพได้สีสันตรงและสมจริงตามมาตรฐาน DCI-P3 100%, BT2020 colour space และ D65 White Point เหมือนกับหน้าจอ Master Monitor ที่ใช้ในกองถ่ายและสตูดิโอเช่นเดียวกันกับ Xperia 1 II

ประสิทธิภาพระดับเรือธงในบอดี้ไซส์กะทัดรัด

    Xperia 5 II แม้จะขนาดเล็กกว่า แต่ในด้านประสิทธิภาพก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า Xperia 1 II เลย โดยมันจะมาพร้อมชุดชิปประมวลผลแบบ 64-bit Octa-core ของ Qualcomm รุ่น Snapdragon 865, RAM ขนาด 8GB นอกจากนี้ยังรองรับ 5G sub-6, LTE 6CA, Wi-Fi 6 และมีหน่วยความจำภายใน 2 เวอร์ชั่น ได้แก่ 128GB และ 256GB โดยเป็นแบบ UFS 3.0 ที่อ่านข้อมูลได้รวดเร็ว

    ช่องใส่ SIM ที่ 2 เป็นแบบ Hybrid รองรับ Nano SIM ผู้ที่ต้องการหน่วยความจำเพิ่ม สามารถใส่ Micro SD แบบ SDXC ความจุสูงสุด 2TB (ปัจจุบันมีจำหน่ายสูงสุด 1TB) ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 10 และรองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.1 และ NFC

 

กล้อง 3 ตัว + เลนส์ Zeiss แต่ไม่มี 3D iToF

    โมดูลกล้องของ Xperia 5 II จะเหมือนๆกันกับ Xperia 1 II แต่ได้ตัดเซ็นเซอร์ 3D iToF ออกไป ซึ่งอาจทำให้ AF ทำงานในที่แสงน้อยได้ไม่ดีเท่า ส่วนสเปคของกล้อง 3 ตัวที่เหลือนั้น ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลทั้ง 3 เลนส์เหมือนเดิม ดังนี้:

  1. ระยะ 24mm: ใช้เซ็นเซอร์ Exmor RS for mobile ขนาดใหญ่ถึง 1/1.7 นิ้ว ประกอบกับเลนส์ F1.7 มุมกว้าง 82° พร้อม OIS และฟีเจอร์ Dual-PD AF, Dual Photo Diode สำหรับภาพนิ่ง และระบบ Hybrid OIS/EIS สำหรับวิดีโอ
  2. ระยะ 16mm (Super-wide): ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.55 นิ้ว ประกอบกับเลนส์ F2.2 มุมกว้างเป็นพิเศษ 124° พร้อมฟีเจอร์ Dual-PD AF, Dual Photo Diode
  3. ระยะ 70mm (Telephoto 3x): ใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/3.4 นิ้ว ประกอบกับเลนส์ F2.4 มุมกว้าง 34° พร้อม OIS สำหรับภาพนิ่ง และระบบ Hybrid OIS/EIS สำหรับวิดีโอ

    กล้องของ Xperia 1 II จะมาพร้อมเลนส์ที่ควบคุมการผลิตโดย ZEISS และเคลือบด้วยสารเคลือบ T* coating ที่จะช่วยป้องกันไม่ให้ภาพถ่ายเกิด ghost และ flare นอกจากนี้พวกเขายังคงใส่ OIS มาในกล้องหลัง 2 ตัวด้วยกัน โดยจะทำงานเดี่ยวๆในการถ่ายภาพนิ่ง และทำงานร่วมกับ EIS ในการถ่ายวิดีโอ

    ส่วนกล้องหน้าเป็นเลนส์มุมกว้าง 84° เซ็นเซอร์ขนาด 1/4 นิ้ว ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 รองรับการเปิดแฟลชด้วยแสงหน้าจอ พร้อมระบบป้องกันสั่น SteadyShot with Intelligent Active Mode (กันสั่น 5 แกน) และฟีเจอร์ Portrait Selfie effects

    Xperia 5 II ยังคงมาพร้อมระบบประมวลผลภาพถ่าย BIONZ X และแอป Photo Pro ที่พัฒนาร่วมกับทีมงาน Sony α และยังคงมีฟีเจอร์ Real-time Eye AF (โฟกัสอัตโนมัติแบบติดตามดวงตา) ซึ่งรองรับทั้งดวงตาคนและสัตว์ รวมไปถึงฟีเจอร์ Burst shot 20 ภาพต่อวินาที ที่ระบบ AF/AE (Auto Focus/Auto Exposure) จะทำการประมวลผล 60 ครั้งต่อวินาทีในระหว่างที่กดชัตเตอร์ค้างไว้ (หรือวัดแสงและโฟกัสใหม่ 3 ครั้งต่อการจับภาพ 1 ครั้ง) และรองรับการบันทึกภาพเป็นไฟล์ JPEG และ RAW (.DNG)

สมาร์ทโฟนที่ถ่ายวิดีโอ 4K HDR 120fps ได้เครื่องแรกของโลก

    แอป Cinema Pro ที่ร่วมสร้างกับฝ่าย CineAlta ที่ผู้ใช้สามารถเลือกปรับโทนสี, ระยะโฟกัส, ชัตเตอร์สปีด, ISO ฯลฯ ได้อย่างอิสระเหมือนกับใช้กล้องวิดีโอ CineAlta ของพวกเขา ได้ถูกเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่เคยปรากฎบนสมาร์ทโฟนรุ่นใดมาก่อน นั่นก็คือ ความสามารถในการถ่าย 4K HDR 120fps ซึ่งจะช่วยให้สามารถถ่ายวิดีโอสโลวโมชั่นความละเอียดสูงที่มี dynamic range สูงกว่าปกติ

Dolby Atmos, DSEE Ultimate, 360 Reality Audio และรูหูฟัง 3.5 มม.

    Xperia 5 II ยังคงมาพร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ที่พัฒนามาสำหรับระบบเสียงของโรงภาพยนตร์ซึ่งให้เสียงหลากมิติจากทุกทิศทางรอบตัว พร้อมลำโพงคู่หน้าและรูหูฟัง 3.5 มม.

    ตัวเครื่องนอกจากจะมาพร้อมลำโพงคู่สเตอริโอที่ให้เสียงที่ดังและมีมิติ และยังคงรองรับไฟล์ High-Resolution Audio (LPCM, FLAC, ALAC, DSD) แล้ว ยังมีฟีเจอร์ DSEE Ultimate ที่จะช่วยอัพเกรดคุณภาพเสียงไม่ว่า source จะมาจากไฟล์ offline ในเครื่องหรือจะเป็นการฟังสตรีมมิ่งออนไลน์ก็ตาม AI จะทำการวิเคราะห์และปรับปรุงคุณภาพเสียงแบบ real-time ให้มีคุณภาพใกล้เคียงไฟล์ Hi-Res ซึ่งรองรับทั้งการฟังแบบไร้สายและมีสาย

    อีกหนึ่งฟีเจอร์ด้านเสียงที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ 360 Reality Audio ที่ใช้ฮาร์ดแวร์ในการถอดรหัสและประมวลผลจำลองเพลงให้เหมือนกับเราถูกห้อมล้อมไปด้วยเครื่องดนตรีต่างๆแบบในคอนเสิร์ตที่เล่นกันสดๆ โดยรองรับการใช้งานผ่านแอป Tidal อีกด้วย

    แน่นอนว่ายังคงรองรับการเข้ารหัส LDAC และ aptX HD audio ที่ทำให้สามารถฟังเพลงผ่านหูฟังบลูทูธได้โดยไม่สูญเสียความละเอียด

 

ระบบจ่ายไฟน้อยเพื่อควบคุมอุณหภูมิขณะเสียบชาร์จ – Game Enhancer อัปเดตใหม่

    Xperia 5 II ยังคงมีฟีเจอร์ H.S. power control ซึ่งเป็นสุดยอดฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับแอป Game Enhancer กล่าวคือ หากเสียบชาร์จไปพร้อมๆกับการเล่นเกม (หรือใช้งานแอปใดๆที่เพิ่มเข้าไปในลิสต์) เครื่องจะลดกระแสไฟเข้าให้เหลือแค่เพียงพอสำหรับใช้งาน (ไม่เน้นชาร์จแบต เอาแค่แบตไม่ลด) ทำให้อุณหภูมิเครื่องแทบไม่สูงกว่าการเล่นด้วยแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ก็จะไม่เสื่อมไวอีกด้วย

    ฟีเจอร์ Game Enhancer บน Xperia 5 II ได้ถูกอัปเกรดขึ้นอีกครั้ง โดยได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น Optimize Touch Area ให้สามารถเลือกปิดพื้นที่จุดที่ทัชบนหน้าจอได้ เพื่อป้องกันการกดผิดระหว่างเล่นเกม

    แน่นอนว่ารุ่นนี้ก็ยังคงรองรับ PS4 Remote Play ได้เช่นเคย และสามารถใช้งานจอย Dual Shock 4 กับเกมแอนดรอยด์ทุกเกมที่รองรับการใช้จอย

 

ขนาดเล็กกว่า แต่แบตเตอรี่ 4,000 mAh เท่า Xperia 1 II

    Xperia 5 II มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 4000mAh เท่ากันกับ Xperia 1 II ในขณะที่หน้าจอเล็กกว่าและความละเอียดน้อยกว่า นั่นหมายถึงแบตเตอรี่ที่อึดกว่า Xperia 1 II อย่างแน่นอน โดยยังรองรับระบบชาร์จเร็วตามมาตรฐาน Power Delivery 21W และการชาร์จไร้สาย และแน่นอนว่ามันยังคงมาพร้อมเทคโนโลยี Adaptive Charging ที่จะช่วยจัดการพลังงานอย่างอัจฉริยะให้แบตเตอรี่เสื่อมช้าลง นอกจากนี้ตัวเครื่องมี STAMINA mode และมีโหมดถนอมแบตเตอรี่ Battery Care บนตัวเครื่องมีพอร์ต USB Type-C เวอร์ชั่น 3.1 ที่รองรับ Display Port 4K 60fps

    Xperia 5 II หนา 8 มม. กว้าง 68 มม. และยาว 158 มม. น้ำหนักเพียง 163 กรัม กันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/68 เหมือนเคย Sony จะเริ่มส่งมอบตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เลย ส่วนราคานั้นมีการประกาศราคาที่สหรัฐอเมริกาออกมาแล้ว อยู่ที่ 950 ดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 29,650 บาท) ซึ่งราคาทางฝั่งเอเชียน่าจะถูกกว่านี้อีกเล็กน้อย

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่