หน้าแรก Preview & Review Review : SmartBand Talk

Review : SmartBand Talk

โดย

พฤศจิกายน 28, 2014

518

หลังจากที่ปีที่แล้วโซนี่ได้เปิดตัว SmartBand ซึ่งเป็นสายรัดข้อมูลที่จะเก็บกิจกรรมต่างๆของเราในแต่ละวันเข้าทำตลาด Smartwear ที่น่าจะเริ่มขึ้นหลังจากที่ค่ายต่างๆพากันเปิดตัวสินค้าในแง่ “สุขภาพ” ซึ่งโซนี่เราเองก็ทำได้ดีในซีรี่ย์ SmartWatch มาแล้ว ไม่แปลกที่จะลองหันมาทำ Smartwear ตัวอื่น จนล่าสุดได้เปิดตัว SmartBand Talk (SWR30) มาพร้อมกับ Xperia Z3 Series นั่นเอง โดย Sony SmartBand Talk (SWR30) นั้นจะเป็นสายรัดข้อมือที่ทำหน้าที่เป็น Activity Tracker เหมือนเดิม ใช้สำหรับเก็บข้อมูลในแต่ละวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเดิน วิ่ง การเคลื่อนไหวต่างๆ การใช้งานสมาร์ทโฟน รวมถึงการคำนวนแคลลอรี่ที่เราได้รับในแต่ละวัน ระยะเวลานอน ซึ่งจะทำงานร่วมกับแอพฯ Lifelog ของโซนี่ โดยสิ่งหลักๆที่ถูกเพิ่มเข้ามาคือหน้าจอ E-Ink ไว้สำหรับสั่งงานและดูการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารใช้มันคุยโทรศัพท์ได้!!! เราไปดูคลิปการใช้งาน SmartBand Talk เบื้องต้นกันดีกว่าครับ

SmartBand Talk มาพร้อมกับหน้าจอ E-Ink ขาว-ดำ ขนาด 1.4 นิ้ว กว้าง 23.5มม. หนา 9.5มม. และมีน้ำหนัก 24 กรัม แบตเตอรี่มีขนาด 70mA สามารถใข้งานได้นาน 3 วัน กันน้ำลึกที่ระดับ 1.5 เมตร รองรับมาตราฐาน IP68 โดยจะมีเซ็นเซอร์ภายใน 2 ตัวคือ เซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว และมาตรระดับความสูง รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0 โดยสีที่จำหน่ายจะมีเพียง 2 สีคือขาวกับดำเท่านั้น แต่มีสายรัดขายแยกให้เลือกเปลี่ยนได้ถึง 6 สีด้วยกัน

โดยการถอดเปลี่ยนสายสามารถทำได้ง่ายๆมากเพียงดึงคลิปล็อคใต้สายออกก็สามารถถอดสายออกได้แล้ว

หน้าจอจะใช้เป็นจอชนิด E-Ink มีข้อดีคือกินพลังงานน้อยมาก แต่สามารถแสดงผลได้แค่ 2 สีเท่านั้น คือสีดำ-ขาว แต่การแสดงผลสีดำมีข้อเสียอยู่นิดหน่อยคือเมื่อรายละเอียดบนหน้าจอเปลี่ยนไปจะทิ้งเส้นจางๆของรายละเอียดเดิมไว้ แต่ปล่อยไว้ซักพักมันก็จะหายไป

ส่วนตัว SmartBand Talk จะประกอบด้วยปุ่มฟังก์ชั่น ไว้สำหรับเปลี่ยนไปแอพฯต่างๆ ปุ่มเพิ่มลดเสียงใช้เพิ่มลดเสียงความดังของ SmartBand Talk เวลาแจ้งเตือนหรือโทรศัพท์ และในหน้า Player สามารถเพิ่มลดเสียงโทรศัพท์ได้ รูด้านล่างจะเป็นลำโพง โดยลำโพงจะเป็นลำโพงคู่ซ้าย-ขวา ด้านบนเป็นไมค์ ส่วนอีกด้านเป็นช่อง Micro USB port สำหรับชาร์จแบตเตอรี่

ส่วนทางด้านสายรัดข้อมือนั้นจะยังดีไซน์คล้ายกับ SmartBand โดยมีปุ่มยึดเป็นวัสดุชุปโครเมี่ยม SONY ดูเรียบหรูเลยทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถใช้สายร่วมกับ SmartBand ได้

แม้ข้อมูลต่างๆที่ส่งจาก SmartBand Talk จะถูกส่งไปที่แอพฯ Lifelog แต่การตั้งค่าต่างๆของของ SmartBand Talk นั้นต้องใช้แอพฯของตัวมันเอง สามารถโหลดได้ที่ GooglePlay เลยครับ ซึ่งเราจะมาดูกันว่าเจ้า SmartBand Talk นี้สามารถตั้งค่าอะไรให้กับมันได้บ้าง

Status – จะเป็นหน้าหลักแสดงสถานะเชื่อมต่อระหว่าง Smartphone กับ SmartBand Talk โดยจะแดงแบตเตอรี่และสามารถกด Locate SmartBand ได้เวลาที่เราหาเจ้า SmartBand Talk ไม่เจอโดยจะสั่งให้ SmartBand Talk ดัง และปุ่ม Open Lifelog สำหรับเปิดเข้าแอพฯ Lifelog Settings – จะเป็นส่วนแสดงการ Setting หลักๆ ไม่ว่าจะเป็น Notification ที่สามารถเลือกได้ว่าจะให้แจ้งเตือนแอพฯไหนบ้าง สามารถดูฟังชั่นต่างๆสำหรับการใช้งานในการคุยโทรศัพท์ มีโหมด Do not disturb สำหรับเปิดการแจ้งเตือนต่างๆเวลาเรานอน สามารถเลือกให้โทรศัพท์เราดังเวลาปลุกได้ด้วย (สำหรับคนขี้เซา :P) ตั้งค่าการเอียงหน้าจอสำหรับคนที่ถนัดใส่แขนซ้ายหรือขาวก็ได้ สามารถเลือกสีหน้าจอการแสดงผลได้ 2 สีคือสีขาวและสีดำ แต่ที่เด็ดก็คือฟังก์ชั่น Smart wake up ซึ่งสามารถเลือกช่วงเวลาที่จะให้ SmartBand Talk ปลุกเราขึ้นมาได้ โดยจะอาศัยทฤษฎีหลับลึกหลับตื้นในการปลุกเรา ทำให้เรานั้นตื่นนอนมาอย่างสดชื่นนั่นเอง ^_^ My apps – จะรวมแอพต่างๆที่สามารถใช้งานกับ SmartBand Talk ไว้ โดยตอนนี้มีแอพฯกว่าสิบตัวที่รองรับแล้วและจะมีมากขึ้นในอนาคต โดยสามารถโหลดเพิ่มเติมได้ผ่าน Smartphone โดยตอนนี้จะมี

Home – จะเป็นแอพแสดงเวลาและกิริยาต่างๆของเราในตอนนั้น
Activity Details – รวมข้อมูลกิจกรรมต่างๆของเรา เดิน วิ่ง นับก้าว และแสดงแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ของ SmartBand Talk
Weather – รายงานอุณภูมิ สภาพอากาศ
Find Phone – สำหรับค้นหาสมาร์ทโฟนของเรา โดยจะทำให้สมาร์ทโฟนเราดังบอกตำแหน่ง
Smart Control – ใช้สั่งการเปิด/ปิด เสียง ไว-ไฟ เปิดโหมดเงียบ หรือโชว์แบตเตอรี่โทรศัพท์
Smart Badge – เหมือน Tag ยืนยันตัวเจ้าของ สามารถพิมพ์ชื่อหรือข้อมูลต่างๆได้
Voice Control – โหมดสั่งงานด้วยเสียง
Media Player – สำหรับสั่งงานแอพฯ Walkman และเพิ่ม-ลดเสียงโทรศัพท์
World Clock – นาฬิกาทั่วโลก
Audio Record – บันทึกเสียง
Call favorite – สำหรับเลือกเมมเบอร์โปรดของเรา
Smart Camera – สำหรับใช้งานเป็นปุ่มชัตเตอร์ภาพ
Calender – สำหรับดูปฏิทินและตารางงานต่างๆ

หลังจากเริ่มเปิดแอพฯ Lifelog ก็จะเริ่มให้เราใส่ข้อมูลส่วนตัว วันเกิด ส่วนสูง น้ำหนัก ตรงนี้แนะนำใส่ตามความจริงนะครับ เพราะแอพฯจะนำไปคำนวนปริมาณแคลอรี่หรือพลังงานที่เราใช้ในแต่ละวันให้ใกล้เคียงกับเรามากที่สุด โดยแอพฯจะเก็บข้อมูลการใช้งานและกิจกรรมต่างๆของเราในแต่ละวัน โดยขีดตัวเลยที่มี 12 – 13 นั่นคือเวลาเที่ยงถึงบ่ายโมงเราทำอะไรบ้างนั่นเอง ส่วนวงกลมรูหปต่างๆนั้นคือกิจกรรมต่างๆที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นเล่น facebook ฟังเพลง ดูคลิป หรือถ่ายรูป ฯลฯ ถ้าเราทำกิจกรรมไหนนานๆ วงกลมก็จะใหญ่ขึ้น โดยสามารถตั้ง Life Bookmarks เพื่อบันทึกกิจกรรมพิเศษของเราในแต่ละวันได้อีกด้วย โดยสีของธีมจะเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของแต่ละวัน ส่วนตารางด้านล่างจะเป็นข้อมูลกิจกรรมต่างๆของเรา สามารถกดเข้าไปเพื่อดูข้อมูลเชิงลึกได้อีกด้วย

SmartBand Talk (SWR30) ถือว่าเป็นตัวต่อยอดของ SmartBand ที่ยังสร้างความแตกต่างได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มหน้าจอ E-Ink ประหยัดไฟและลำโพงสำหรับใช้สนทนาแทนโทรศัพท์ได้และยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของเราได้เป็นอย่างดี เพราะข้อมูลต่างๆที่มันเก็บมาสามารถทำให้เราวางแผนการใช้ชีวิตในแต่ละวันได้ดียิ่งขึ้นเพราะเมื่อเรามองย้อนไปดูข้อมูลเมื่อวานอาจจะเห็นได้ว่า เอ๊ะวงกลม Facebook มันใหญ่เกินไปแล้วนะ เผื่อเราจะควบคุมเวลาการเล่นและแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง 😛 รวมถึงแอพฯต่างๆที่ถูกเพิ่มขึ้นมาก็อำนวยความสะดวกให้กับเรามากขึ้น โดยเฉพาะ Notification การแจ้งเตื่อนต่างๆ ที่ทำได้ดีสามารถดูข้อความ หรือข้อความกลุ่มใน Facebook ก็ได้(รองรับการใช้งานภาษาไทย)

สำหรับใครที่อ่านรีวิวแล้วเงินในกระเป๋ามันสั่นๆ สนใจเป็นเจ้าของ SmartBand Talk สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ที่