Xperia XZ1 หนึ่งในสมาร์ทโฟนเรือธงครึ่งหลังของปี 2017 จาก Sony Mobile ได้เริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไต้หวันเมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา ตัวเครื่องมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว บอดี้โลหะ และกล้อง Motion Eye โดยรอบนี้เรือธงจอ 5.2 นิ้วตัวนี้ได้อัพเกรดชิปประมวลผลมาเป็น Snapdragon 835 แล้ว และยังได้เพิ่มฟีเจอร์ 3D Creator สุดล้ำเข้ามา ทำให้สมาร์ทโฟน Xperia รุ่นเรือธงในปีนี้ใกล้เคียงกับคำว่าสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

สเปคหลักๆของ Sony Xperia XZ1:

● ชิปประมวลผล:Qualcomm Snapdragon 835
● RAM:4GB
● หน่วยความจำภายใน:64GB
● หน้าจอ:หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล รองรับการแสดงผลแบบ HDR ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5
● กล้องหลัง:ความละเอียด 19 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี MotionEye, Hybrid Adaptive Autofocus, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน, Laser Focus, PDAF, เซ็นเซอร์วัดสี RGBC-IR, การบันทึกวีดิโอ 4K
● กล้องหน้า:ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล Autofocus, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 5 แกน, ISO สูงสุด 6400
● การรับสัญญาณ:4G LTE Cat16, รองรับ 4CA, 4x4MIMO ความเร็วดาวน์โหลดสูงสุด 1Gbps
● แบตเตอรี่:ความจุ 2,700mAh รองรับ Quick Charge 3.0 พร้อมเทคโนโลยี Qnovo Adaptive Charging
● ป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP65/68
● พอร์ต:USB-C เวอร์ชั่น USB 3.1 Gen 1
● สัดส่วน:148 x 73 x 7.4 mm
● น้ำหนัก:156g
● สี:Moonlit Blue, Black, Warm Silver, Venus Pink

    ทาง ePrice เว็บไซต์ข่าวเทคโนโลยีจากไต้หวันมีโอกาสได้เป็นเจ้าของ Xperia XZ1 เครื่องโซนยุโรปก่อนที่ไต้หวันจะเริ่มวางจำหน่าย (ไม่ได้ระบุว่าเป็นประเทศอะไร) จึงนำมันมาถ่ายภาพ Unbox ให้ผู้อ่านได้รับชม รวมถึงได้นำมันไปถ่ายรูปแล้วเอาไฟล์ต้นฉบับมาให้ดูเป็นตัวอย่างกันอีกด้วย

▲ ​Xperia XZ1 รุ่นใหม่ล่าสุด ใส่มาในถุงผ้า Sony สีดำสุดเท่ มาแกะกันเลยดีกว่า!

▲ ​หน้าตาของกล่องบรรจุยังคงเหมือนกับ Xperia รุ่นอื่นๆที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน คือ กล่องเป็นสีขาวและมีตัวหนังสือสีเงิน

▲ ​เปิดฝากล่องออกมาก็จะเห็น Xperia XZ1 ในทันที

▲ ​อุปกรณ์ที่แถมมาในกล่องได้แก่ อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ หูฟัง สาย USB Type-C และคู่มือ

▲ ​สีของเครื่องนี้คือสีดำ ซึ่งเป็นสีที่ Sony ระบุว่าได้แรงบันดาลใจจากท้องฟ้ายามค่ำคืน นับตั้งแต่ Xperia XZ เป็นต้นมา สีตัวเครื่องส่วนใหญ่นั้นถูกเลือกมาจากสีที่พบได้ในธรรมชาติ

▲ ​ด้านหลังมีสติ๊กเกอร์แนะนำพอร์ตต่างๆโดยคร่าวแปะไว้

▲ ​เนื่องจากเครื่องที่นำมาแกะกล่องในวันนี้เป็นเครื่องยุโรป ดังนั้นจึงรองรับเพียง SIM เดียว พร้อมกับ Micro SD Card แต่รุ่นที่วางจำหน่ายในไต้หวันจะเป็นรุ่น Dual-SIM แบบ Hybrid Slot

▲ ​ในครั้งนี้ Xperia XZ1 มีแถบเสาอากาศที่ทำจากเรซินอยู่บริเวณด้านข้างตัวเครื่อง เนื่องจากฝาหลังและขอบข้างทำมาจากอะลูมิเนียมชิ้นเดียวกันซึ่งสัญญาณโทรศัพท์ไม่สามารถผ่านได้ จึงต้องใช้การออกแบบเช่นนี้

▲ ​แถบเสาอากาศนี้ ด้านข้างมีทั้งหมด 3 จุด ได้แก่ ด้านซ้ายบน-ล่าง และด้านขวาบน

▲ ​การออกแบบด้านบนไม่ใช่ diamond cut แล้ว โดยเปลี่ยนมาใช้การออกแบบที่เรียบเป็นผิวเดียวกันแทน มีรูหูฟัง 3.5 มม. และไมค์ตรวจจับเสียงรบกวน

▲ ​ด้านล่างก็ใช้การออกแบบเช่นเดียวกัน ตรงกลางมีพอร์ต USB Type-C เวอร์ชั่น USB 3.1 ที่โอนข้อมูลได้เร็วถึง 5Gbps

▲ ​ผู้เขียนพบว่า โลโก้ XPERIA ด้านหลังตัวเครื่องได้เปลี่ยนมาใช้การยิงเลเซอร์สลักตัวอักษรลงไป

▲ ​กล้อง Motion Eye 19 ล้านพิกเซลตัวเดิม มีพร้อมฟีเจอร์ Predictive Capture และ 960fps Super slow motion แต่ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ Smile detection เข้ามาด้วย ทำให้นอกจากจะจับภาพการเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติแล้ว มันยังจับภาพรอยยิ้มบนใบหน้าคนโดยอัตโนมัติก่อนที่เราจะกดชัตเตอร์อีกด้วย

▲ ​Xperia XZ1 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 8.0 เวอร์ชั่นล่าสุดตั้งแต่ในกล่อง

▲ ​สังเกตกันหรือเปล่าเอ่ยว่าปุ่ม navigation bar หน้าตาเปลี่ยนไปแล้ว?

UI และคะแนน Benchmark

    Xperia XZ1 มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 835 ที่แรงสุดๆแล้ว สเปคหลักๆเทียบเท่ากับ Xperia XZ Premium แตกต่างกันที่ขนาดและความละเอียดของหน้าจอ โดยถ้านับ Xperia XZ1 Compact เข้าไปด้วย ณ ตอนนี้  Sony Xperia มีรุ่นที่ใช้ชิปประมวลผลตัวนี้ถึง 3 รุ่นด้วยกัน (หน้าจอ 5.5, 5.2 และ 4.6 นิ้ว) ซึ่งแตกต่างกันที่สเปคย่อยๆ เพื่อนๆสามารถเลือกซื้อตามขนาดหน้าจอที่ต้องการได้เลย

▲ ​ทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอพ AnTuTu Benchmark ได้คะแนนสูงถึง 157393 คะแนน ตามหลักแล้วยังสูงกว่านี้ได้อีก
▲ ​เฟิร์มแวร์เป็น Android 8.0 Oreo เวอร์ชั่นสมบูรณ์
▲ ​ยังคงมีโหมดสีภาพให้เลือก 3 แบบเช่นเคย ได้แก่ Professional, Standard และ Super vivid mode นอกจากนี้ Xperia XZ1 ยังเป็นสมาร์ทโฟนหน้าจอความละเอียด 1080p รุ่นแรกที่รองรับ HDR
▲ ระบบของ ​Xperia มีการแนะนำฟีเจอร์ต่างๆอย่างละเอียดซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับผู้ใช้หน้าใหม่ 
 

แอป 3D Creator

    ฟีเจอร์หลักที่เพิ่มเข้ามาใหม่ในรอบนี้ก็คือ 3D Creator นั่นเอง โดยมันจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ Xperia XZ1 มาสแกนวัตถุแล้วสร้างออกมาเป็นโมเดล 3D ได้เลย โดยสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะใช้ร่วมกับ AR Effect หรือสั่งพิมพ์ 3 มิติออกมาเลยก็ได้ นับว่าเป็นฟีเจอร์ที่น่าสนุกและใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ในอนาคตน่าจะมีแอป 3rd party ที่สามารถต่อยอดการใช้งานได้หลากหลายออกมาอีก

▲ เมื่อเปิดแอป 3D Creator ขึ้นมา ก็จะพบกับโมเดลสแกนตัวอย่าง 4 แบบ ได้แก่ ใบหน้า ทั้งศรีษะ อาหาร และรูปทรงอิสระ

▲ ลองเปิดดูตัวอย่างโมเดลศรีษะ พบว่ารายละเอียดต่างๆนั้นถือว่าค่อนข้างชัดเจนดีมาก

▲ สามารถสั่งพิมพ์โมเดลจากในแอปได้ โดยเลือกระหว่างใช้บริการสั่งพิมพ์ร้านผ่านระบบออนไลน์ หรือหากมีเครื่องพิมพ์ 3 มิติของตัวเอง ก็สามารถสั่งพิมพ์ได้เลย
▲ สามารถเลือกวัสดุสำหรับใช้พิมพ์และขนาด จากนั้นก็เลือกผู้ให้บริการที่ต้องการ แล้วทำการอัปโหลดโมเดลก็เป็นอันเสร็จสิ้น
▲ แม้ว่าในขณะนี้ยังไม่มีบริการดังกล่าวในไต้หวัน แต่ในอนาคตน่าจะมีให้ใช้บริการ

ประสบการณ์การใช้งานกล้อง

    ฟีเจอร์การถ่ายภาพของ Xperia XZ1 โดยรวมแล้วไม่แตกต่างกับ Xperia XZ Premium เรือธงเมื่อต้นปีมากเท่าไรนัก แต่ฟีเจอร์ Smile Predictive Capture ที่เพิ่มเข้ามานั้น ช่วยจับภาพรอยยิ้มที่เราอาจจะกดชัตเตอร์จับไม่ทัน ก็ถือว่ามีประโยชน์ไม่น้อย และฟีเจอร์ Quick Launch & Capture ที่ช่วยเปิดใช้กล้องและถ่ายทันทีภายในเวลา 0.6 วินาที ก็ช่วยให้สามารถไม่พลาดโมเม้นต์สำคัญ

▲ Predictive Capture นอกจากจะจับการเคลื่อนไหวแล้ว ยังช่วยจับรอยยิ้มบนใบหน้าด้วย สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก ฟีเจอร์นี้จะมีประโยชน์อย่างมากแน่นอน

▲ โหมด Manual รอบนี้มีการปรับปรุงเล็กน้อย สามารถปรับ ISO พร้อม Shutter speed ได้แล้ว

    ในสมาร์ทโฟน Xperia รุ่นก่อนๆ โหมด Manual ไม่สามารถปรับ ISO พร้อมกับ Shutter speed ได้ ทำให้ผู้ที่ใช้โหมด Manual เป็นประจำรู้สึกเหมือนถูกจำกัดความสามารถไว้ครึ่งหนึ่ง แต่บน Xperia XZ1 นั้น Sony ได้ปลดล็อกความสามารถนี้แล้ว ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกในการสร้างสรรค์ผลงานได้มากขึ้นแล้ว สามารถปรับ Shutter speed ได้ตั้งแต่ 1s ถึง 1/4000s และ ISO 50 ถึง 3200

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Xperia XZ1 (คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม):

จะเห็นได้ว่า หลังจากที่ Sony ได้นำเอาเทคโนโลยี Motion Eye มาใช้บน Xperia นั้น ฟีเจอร์และคุณภาพของภาพถ่ายทำได้ไม่เลวเลย ฟีเจอร์ Predictive Capture ผนวกพลังกับ Quick Launch & Capture ช่วยให้การถ่ายช็อตสำคัญในเวลาอันสั้นไม่เป็นรองใคร โหมด Superior Auto ก็ถือว่าฉลาด สามารถแยก Scene ต่างๆได้ และใช้เซ็นเซอร์วัดสี RGB-IR ในการตรวจจับ White Balance ได้ค่อนข้างแม่นยำ แม้จะถ่ายย้อนแสงก็สามารถจับอุณหภูมิสีที่แท้จริงได้ พอได้ลองใช้แล้วก็ติดใจในทันที

ที่มา: ePrice

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่