หลังจากที่มีข่าวหลุดออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้ภายในงาน Mobile World Congress 2017 ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน Sony Mobile ก็ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นใหม่ Xperia XZ Premium และ Xperia XZs ซึ่งเป็นเรือธงชุดแรกของปีนี้ พร้อมๆกับ Xperia XA1 และ Xperia XA1 Ultra ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นกลางของปีนี้

    Xperia XZ Premium ถือเป็นดาวเด่นของงานแถลงในวันนี้เลยทีเดียว เนื่องจากเป็นรุ่นเดียวที่มีการแนะนำบนเวที หากยังจำกันได้ เมื่อเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา Kaz Hirai ประธาน Sony Corp. ได้เคยแนะนำว่า Xperia XZ ได้ถูกสร้างขึ้นมาโดยเน้นไปที่ปัจจัยสำคัญ 4 อย่าง ได้แก่ ดีไซน์ ประสิทธิภาพ กล้องถ่ายรูป และอายุแบตเตอรี่ ในครั้งนี้ Sony Mobile ได้แนะนำว่า พวกเขาได้มุ่งโฟกัสไปที่กล้องถ่ายรูปและหน้าจอโดยเฉพาะ ทำให้สร้างเป็น Xperia XZ Premium ขึ้นมา

    Xperia XZ Premium ยังคงมาพร้อมดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า “Loop Surface” แบบเดียวกับ Xperia XZ และเลือกใช้กระจกทั้งด้านหน้าและหลังเหมือนกับตระกูล Xperia Z ในอดีต โดยพวกเขาเลือกใช้ Corning Gorilla Glass 5 ที่เป็นรุ่นใหม่ล่าสุด มีความทนทานมากกว่ารุ่นที่ผ่านๆมา ด้านบนและด้านล่างใช้เทคนิคการออกแบบแบบ diamond cut เหมือนกับการเจียระไนเพชร และแม้แต่วงแหวนรอบเลนส์กล้องหลังยังทำจากสแตนเลสเพื่อความหรูหรา โดยตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำทะเลลึก (Deepsea Black) และสีโครเมียมสะท้อนแสง (Illuminous Chrome) ซึ่งเงาวับราวกับกระจกเงาเหมือนก่อนหน้านี้ หากสังเกตดีๆจะพบว่า ปุ่มพาวเวอร์ที่ฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือของ Xperia XZ สีดำจะถูกเคลือบด้วยสีดำเพื่อให้เข้ากับตัวเครื่องอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่ Sony ไม่เคยทำมาก่อน

    ในครั้งนี้ Sony Mobile เลือกใช้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.5 นิ้วที่มีความละเอียดสูงถึง 2160 x 3840 พิกเซล (4K) อีกครั้งหลังจาก Xperia Z5 Premium แต่ในคราวนี้ได้ใส่เทคโนโลยี HDR ที่สามารถแสดง dynamic range ได้ละเอียดมากกว่าปกติเข้ามาอีกด้วย นั่นทำให้ Xperia XZ Premium เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมหน้าจอ 4K HDR แน่นอนว่ายังคงมาพร้อมเทคโนโลยี Triluminos Display for Mobile และ X-Reality เหมือนเช่นเคย

    ในด้านประสิทธิภาพ Xperia XZ Premium มาพร้อมชุดชิพประมวลผลแบบ 64-bit Octa-core รุ่น Snapdragon 835 ซึ่งเป็นชุดชิพประมวลผลรุ่นล่าสุดจาก Qualcomm และ RAM ขนาด 4GB ซึ่งเยอะกว่ารุ่นที่เคยมีมาทั้งหมด Sony Mobile อ้างว่า ชิพประมวลผลตัวนี้ทำงานได้รวดเร็วกว่ารุ่นที่ผ่านๆมากว่า 50% และมันยังกินแบตน้อยกว่าเดิมถึง 25% อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการดาวน์โหลดผ่าน LTE ด้วยความเร็วสูงสุด 1 Gbps

    ความจำภายในมีขนาด 64GB ทั้งรุ่น SIM เดียวและรุ่น dual-SIM โดยครั้งนี้ Sony ได้เปลี่ยนจากเดิมที่ใช้หน่วยความจำ eMMC มาเป็น UFS ซึ่งอ่านข้อมูลได้รวดเร็วถึง 1.5Gbps หรือเร็วกว่ารุ่นก่อนๆถึง 3 เท่า นั่นทำให้พวกเขากล้าโฆษณาว่าสามารถเปิดดูภาพหรือวิดีโอได้รวดเร็วกว่าเดิมมาก (ถ้าเซฟไว้ในความจำภายในอ่ะนะ) ผู้ที่ต้องการหน่วยความจำเพิ่ม สามารถใส่ Micro SD แบบ SDXC ความจุสูงสุด 2TB (ปัจจุบันมีจำหน่ายสูงสุด 256GB) ตัวเครื่องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 7.1 Nougat พร้อม Xperia UI เวอร์ชั่นใหม่ และรองรับการเชื่อมต่อด้วย Bluetooth 5.0 และ NFC

    ตำแหน่งของปุ่มต่างๆจะยังคงอยู่ในตำแหน่งด้านขวาของตัวเครื่องเช่นเดิม ได้แก่ ปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงที่ขยับมาอยู่ด้านบนแล้ว ปุ่มพาวเวอร์ที่ฝังเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้เหมือนเช่นเคย และปุ่มชัตเตอร์ที่จะขาดไปไม่ได้

    ไฮไลท์แรกของ Xperia XZ Premium จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากหน้าจอ 4K HDR ของมันนั่นเอง โดย Sony ระบุว่า พวกเขาได้นำเอาเทคโนโลยีมาจากฝ่าย Bravia ของพวกเขาเองเลย และนั่นทำให้หน้าจอของมันสามารถแสดงสีได้สมจริงและมีการไล่เฉดสีที่ละเอียดกว่าจอทั่วไป แน่นอนว่ายังคงมาพร้อมเทคโนโลยี X-Reality for Mobile ที่ช่วยปรับภาพให้สวยยิ่งขึ้น ด้วยการเพิ่มเม็ดพิกเซลที่หายไป ลด noise และเพิ่ม texture ทำให้ภาพดูสดใสและคมชัดมากขึ้น แม้จะมาจากแหล่งที่ความละเอียดต่ำก็ตาม

   
    ไฮไลท์สำคัญอีกประการของ Xperia XZ Premium อยู่ที่กล้องถ่ายรูปที่อัดเทคโนโลยีใหม่มาอย่างจัดเต็มยิ่งกว่าครั้งไหนๆ โดยพวกเขาระบุว่าได้นำเอาเทคโนโลยีจากกล้องซีรี่ย์ Alpha และ Cyber-shot (เหรอ?) มาช่วยยกระดับการจับภาพชีวิตให้ยอดเยี่ยมอย่างที่ไม่มีสมาร์ทโฟนเจ้าอื่นสามารถทำได้

    ครั้งนี้เซนเซอร์ที่ใช้จะเป็น Exmor RS ขนาด 1/2.3 นิ้ว ความละเอียด 19 ล้านพิกเซลรุ่นใหม่ ที่ขนาดพิกเซลใหญ่ 1.22μm และยังคงมาพร้อมเลนส์ G อันโด่งดังและ BIONZ for Mobile ระบบประมวลผลภาพถ่ายสำหรับสมาร์ทโฟนเหมือนเช่นเคย แต่ครั้งนี้ Sony ระบุว่าพวกเขาได้ยกเครื่องเทคโนโลยีทั้งสองใหม่ทั้งหมด จะให้ภาพที่ชัดเจนทุกมุม นอกเหนือจากเทคโนโลยี Triple Image Sensing Technology (เซนเซอร์ถ่ายภาพที่มีระบบ Predictive Hybrid Autofocus + Laser Autofocus + เซนเซอร์ RGBC-IR สำหรับจับสี) ที่มาพร้อมกับ Xperia XZ แล้ว ในครั้งนี้พวกเขาได้เพิ่มเทคโนโลยี Motion Eye เข้ามาอีกด้วย

    Motion Eye เป็นการทำงานของกล้องตัวใหม่ ที่จะทำการ buffer ตรวจจับการเคลื่อนไหวรอไว้ตลอดเวลา และจะเก็บบันทึก 4 ช็อตล่วงหน้าก่อนที่ผู้ใช้จะกดชัตเตอร์ด้วย โดยตัวกล้องจะเป็นตัวที่คัดรูปภาพที่วัตถุอยู่ในจุดที่ดีที่สุดออกมาให้ผู้ใช้เลือกว่าจะเซฟรูปดังกล่าวไว้หรือไม่ ซึ่งทำให้มันเหมาะกับการถ่ายภาพที่วัตถุมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและไม่สามารถถ่ายพลาดได้

   
    ไม่เพียงเท่านั้น กล้องตัวใหม่นี้ยังเป็นกล้องบนสมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกที่มาพร้อมหน่วยความจำ DRAM อีกด้วย นอกจากจะใช้ในฟีเจอร์ Motion Eye แล้ว DRAM ที่เพิ่มเข้ามานี้ยังทำให้ Xperia XZ Premium สามารถถ่ายวิดีโอ super slow-motion ที่ 960 fps ซึ่งสูงกว่าสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นในตลาดถึง 4 เท่า คลิปวิดีโอที่ได้ราวกับสามารถหยุดเวลาให้ช้าลงได้เลยทีเดียว


   

    ขนาดพิกเซลที่ใหญ่ขึ้นถึง 19% ช่วยให้สามารถเก็บแสงได้มากขึ้น จึงทำให้ Xperia XZ Premium สามารถถ่ายภาพในที่สภาพแสงน้อยได้ดีกว่าเดิมมาก นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ป้องกันการบิดเบือนของภาพซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเมื่อถ่ายภาพวัตถุที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว เหมือนที่เราเคยได้อธิบายถึงสรรพคุณของเซนเซอร์กล้องรุ่นใหม่ของ Sony

    แอพกล้องยังคงสามารถปลดล็อคและถ่ายได้ภายใน 0.5 วินาทีด้วยการกดปุ่มชัตเตอร์ค้างไว้เมื่อเครื่องอยู่ในสถานะ standby ตัวกล้องรองรับ ISO สูงสุดถึง 12800 เช่นเคย และสามารถซูมได้ถึง 5 เท่าโดยไม่เสียรายละเอียด และ digital zoom สูงสุด 8 เท่า ส่วนตัวเลนส์นั้นเป็น G Lens มุมกว้าง 24 มม. f / 2.0 นอกจากนี้การถ่ายวิดีโอยังคงมีระบบป้องกันสั่น EIS 5 แกน ที่ใช้ชื่อว่า Steadyshot with intelligent active mode เหมือนกับ Xperia XZ

xperia xz five axis

   
    ส่วนกล้องหน้าเป็นเลนส์มุมกว้าง 22 มม. เซนเซอร์ Exmor RS ขนาด 1/3.06 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 13 ล้านพิกเซล f/2.0 รองรับ ISO สูงสุด 6400 ซึ่งรองรับโหมด Steadyshot with intelligent active mode เหมือนกับกล้องหลัง

    Xperia XZ มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 3230mAh ที่สามารถใช้งานได้ทั้งวัน รองรับ Quick Charge 3.0 และมาพร้อมเทคโนโลยี Qnovo Adaptive Charging ที่จะช่วยจัดการพลังงานอย่างอัจฉริยะซึ่งทำให้แบตเตอรี่แบบฝังเครื่องมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นถึง 2 เท่าเมื่อเทียบกับ Xperia Z2 (เสื่อมช้าลงนั่นเอง) ตัวเครื่องมี STAMINA mode และมีโหมดถนอมแบตเตอรี่ Battery Care ตัวเครื่องใช้พอร์ต USB Type-C เวอร์ชั่น 3.1

    แน่นอนว่า Xperia XZ Premium ก็ยังคงสามารถกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IP65/68 เหมือนกับรุ่นเรือธงที่ผ่านๆมา โดยสามารถกันน้ำได้โดยไม่ต้องปิดพอร์ตหูฟังและ USB Type-C

    ในด้านเสียงนั้น Xperia XZ ยัง คงรองรับไฟล์ High-Resolution Audio (LPCM, FLAC, ALAC, DSD) มีฟีเจอร์ DSEE HX ที่ช่วยอัพเกรดคุณภาพเสียงให้ดียิ่งขึ้น รองรับการเข้ารหัส LDAC ที่ทำให้สามารถฟังเพลงผ่านหูฟังบลูทูธได้โดยไม่สูญเสียความละเอียด และยังคงรองรับ Digital Noise Cancelling เช่นเคยเมื่อใช้ร่วมกับหูฟังที่รองรับ นอกจากนั้นก็ยังคงมีฟีเจอร์ Clear Audio+, ลำโพงคู่ S-Force Front Surround, Auto-headset compensation และ Stereo Recording ที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว ลูกเล่น PS4 Remote Play ก็ยังคงสามารถใช้งานได้เช่นเคย

    Xperia XZ Premium หนา 7.9 มม. กว้าง 77 มม. และยาว 156 มม. ส่วนน้ำหนักนั้นอยู่ที่ 195 กรัม สำหรับวันวางจำหน่าย Sony Mobile ระบุเพียงว่าจะเริ่มวางจำหน่ายภายในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลินี้ (พฤษภาคม – มิถุนายน) และราคานั้นยังไม่มีการประกาศแต่อย่างใด หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเราจะนำมารายงานให้ทราบ

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่