headcoverpart2a

หลังจากเต็มอิ่มกับการรีวิวฮาร์ดแวร์ในพาทแรกมาแล้วก็มาต่อด้วยซอฟแวร์ต่างๆในพาทสองกันครับ ซึ่งถ้ามองจากด้านสเปค Xperia Z3 กับ Xperia Z2 นั้นยังไม่ต่างกันเท่าไร แต่ได้ทำการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆแทน ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์กล้องหรือฟีเจอร์ใช้งานต่างๆ ซึ่งถ้าให้เทียบคงคล้ายๆกับตอนเปลี่ยนจาก Xperia Z1 มาเป็น Xperia Z2 นั่นแหละครับ เอาเป็นว่าเราไปดูกันดีกว่าว่าใน Xperia Z3 จะมีอะไรใหม่ๆและประสิทธิภาพจะเป็นยังไงเมื่อเทียบกับ Xperia Z2
สำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านพาทแรกเกี่ยวกับการแนะนำฮาร์ดแวร์ต่างๆ สามารถอ่านได้ที่นี่ครับ ^^ Review Xperia Z3 Series part1

FCT_6856*เนื่องจากสเปคต่างๆของ Xperia Z3 และ Xperia Z3 Compact มีสเปคพื้นฐานที่เท่ากัน เราจึงยึดที่ Xperia Z3 ในการรีวิวนี้นะครับ

headui

xperia_z3_review_screenshot_1

  • Lock Screen ยังคงเหมือนกับ Xperia Z2 คือมีเอฟเฟคพรุ้งพริ้งเวลารูดนิ้วไปมา ซึ่งถูกเพิ่มให้พรุ้งพริ้งมากขึ้นไปอีก Widget นาฬิกาที่แบ่งโซนเวลาหลักเป็นตัวหนา สามารถเข้ากล้องได้โดยการแตะที่รูปไอคอนกล้องแล้วเลื่อนขึ้น สามารถเพิ่ม Widget ในหน้า Lock Screen ได้แต่ต้องไปเปิดการใช้งานใน Setting -> Security -> Enable Widget ก่อน Live Wallpaper ตัวใหม่ที่จะเปลี่ยนโทนสีไปเรื่อยๆเวลาเราปัดนิ้วไปมา(ชอบ ^_^)
  • Home Screen ยังเหมือนกับ Xperia Z2 แต่ปรับเปลี่ยนสไตล์เล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับ Android 4.4.4 เช่นปุ่มสำหรับเข้า App Drawer ที่ดีไซน์ให้เหมือนกับรอม AOKP สามารถเพิ่ม/ลบ หน้า Home Screen เลื่อกรูปแบบธีมหรือดาวโหลดเพิ่มเติมได้
  • App Drawer ไอคอนที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งผมมองว่ามันใหญ่เกินไปจนดูแน่น >.< แต่หลายๆคนอาจชอบเพราะมันทำให้กดง่ายดี ยังคงรูปแบบการเรียงแอพฯแบบ 5×4 ไว้เช่นเคย สามารถสร้างโฟลเดอร์ในหน้า App Drawer ได้ ส่วนการ ค้นหา, Uninstall App หรือการจัดเรียง App ตามหมวดหมู่ต่างๆสามารถเข้าไปจัดการได้ใน App Drawer Setting ซึ่งสามารถเข้าใช้งานได้ง่ายเพียงแค่ลากนิ้วออกจากมุมซ้ายของจอหรือเลื่อนมาที่หน้าซ้ายสุดนั่นเอง

xperia_z3_review_screenshot_2

  • Recent App เป็นจุดรวมแอพฯที่เพิ่งเปิดใช้งานล่าสุด โดยสามารถสับเปลี่ยนการใช้งานแอพฯได้อย่างสะดวกในหน้านี้ สามารถปัดซ้าย/ขวาเพื่อปิดแอพฯได้ หรือจะกด Close all เพื่อปิดแอพฯที่เปิดทั้งหมดก็ได้ โดนชยภายในหน้านี้เราสามารถเลือกใช้งาน Small App ได้ ซึ่งจะมีแอพฯหลักๆที่เราต้องใช้งานทั่วไปจัดไว้ให้ในยามเร่งด่วนไม่ว่าจะเป็นเครื่องคิดเลข จับเวลา หรือเว็บบราวเซอร์ขนาดจิ๋ว โดยเมื่อเปิดใช้งานจะเป็น mini app ขึ้นมาบนหน้าจอ ซึ่งสามารถดาวน์โหลด small app เพิ่มเติมได้จาก Play Store ซึ่งโดยรวมยังไม่มีอะไรต่างจาก Xperia Z2 มากนัก
  • Notification เพิ่มในส่วนของ Manage notifications ซึ่งสามารถปิดการแจ้งเตือนแอพฯต่างๆที่เราไม่ต้องการได้แล้ว ส่วน Status bar icon จะเป็นการปิด icon ต่างๆบนแถบบาร์ด้านบนที่เราไม่ต้องการใช้โชว์เช่นสัญลักษณ์ NFC หรือนาฬิกาปลุกเป็นต้น
  • Quick Setting จะเป็นการรวมส่วนที่เราเปิด/ปิดการใช้งานบ่อยๆมารวมไว้ในหน้านี้ไม่ว่าจะเป็น Bluetooth, Wifi, NFC หรือการตั้งค่าแสงสว่างหน้าจอ, เสียง, การเอียงหน้าจอ ซึ่งสามารถเพิ่ม/ลบการตั้งค่าที่เราต้องการได้ โดยการกดที่ปุ่ม Edit ซึ่งจะมี Quick setting ที่เหลือโผ่ลมาให้เลือกที่ด้านล่าง

xperia_z3_review_screenshot_3

  • Contact จะเป็นส่วนของรายชื่อต่างๆ ซึ่งสามารถซิงค์กับบัญชีของ Google เราได้เลยหรือจะสามารถ Backup รายชื่อไว้ในหน่วยความจำเครื่อง/การ์ดเเล้วสามารถ Import ลงเครื่องเราก็ได้ ส่วนหน้า Phone จะเป็นส่วนแสดง Call log ในตัวโดยสามารถลบ Call log ที่เราไม่ประสงค์จะให้โชว์ก็ได้ หรือจะ Hide Call log ไปเลยก็ได้เช่นกัน 
  • Messaging & Keyboard เหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เช็คข้อความต่างๆ เขียนส่งออก คีย์บอร์ดภาษาไทย 4 แถวรองรับการ Swipe เช่นเคย
  • Calender เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆขึ้นมาเพียบไม่ว่าจะเป็นการซิงค์ Event สำคัญจาก Gmail,Facebook ลงมา มีการรายงานสภาพอากาศในตัวรวมถึงแจ้งเตือนวันเกิดเพื่อนเราด้วย สำหรับใครที่อยากดูฟังก์ชั่นการใช้งานเต็มๆสามารถเข้าไปชมได้ในคลิปนี้ครับ How to use Xperia Calender

xperia_z3_review_screenshot_4

  • Gmail & Email สามารถแอด Account ได้มากกว่าหนึ่งแอดเคา สามารถจัดการ Email ต่างได้ง่ายแม้ตอนออฟไลน์เพราะระบบจะดึงเมล์ลงมาไว้ในเครื่อง สำหรับการใช้งานเต็มๆดูได้จากคลิปนี้ครับ How to use Xperia Email ส่วนแอพฯอีเมล์สำหรับ Gmail โดยเฉพาะก็มีให้เลือกเช่นกัน ส่วนฟังก์ชั่นการใช้งานยังไม่มีอะไรใหม่มาก รูปเเบบ UI ก็เป็น Flag UI ตามสมัยนิยม
  • Alarm & Clock การตั้งนาฬิกาปลุกหรือฟังก์ชั่น Timer หรือนาฬิกานับถอยหลังยังเหมือนเดิม ส่วน Clock World สามารถแอดเวลาสถานที่ที่เราอยากรู้ทั่วโลกได้
  • Google Now  เป็นเหมือนผู้ช่วยที่จะอัพเดทข้อมูลต่างๆรายวันให้กับเราไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศหรือถ้าเราโฉบไปทางโรงหนังก็จะอัพเดทรอบหน้าให้เราได้รู้ด้วย ^^ โดยสามารถ “Say Google” เพื่อสั่งงานด้วยเสียงก็ได้
  • Smart Connect ใช้ควบคุมระบบต่างๆที่ง่ายดายโดยใช้หลักเวลาเเละการเชื่อมต่อมาควบคุม เช่นเราตั้งโหมด Night ไว้ เมื่อถึงเวลาก็จะเปลี่ยนเป็นโหมดปิดเสียงอัตโนมัติพร้อมเปิดเเอพฯนาฬิกาปลุกขึ้นมา หรือเมื่อเราเสียบหูฟังก็จะเปิดเเอพฯ Walkman ขึ้นมาอัตโนมัติ รวมถึงใช้ควบคุมและตั้งค่าอุปกรณ์เชื่อมต่อต่างๆของโซนี่ไม่ว่าจะเป็น SmartBand หรือ SmartWatch อีกด้วย

xperia_z3_review_screenshot_5

  • Album ยังเป็นธีมเดิมเพิ่มรูปแบบรีวิวภาพด้านบนขึ้นมา โดยสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงเฉพาะภาพที่ถ่ายากกล้อง หรือแสดงเป็นแบบโฟลเดอร์ก็ได้โดยการลากนิ้วออกจากทางมุมซ้ายเพื่อเข้าสู่ Option อื่นๆ หรือจะซิงค์ภาพใน Facebook, Picasa เเละ Flickr มาโชว์ก็ได้ สามารถเลือกฟังก์ชั่น Faces เพื่อเเสดงแต่ภาพบุคคลที่เราต้องการได้ เเต่เราต้อง Registration ภาพต่างๆก่อนโดยสามารถตั้งค่าได้ในกล้องถ่ายรูปหรือ Gallery ก็ได้
  • Movie จะเป็นรูปแบบธีมใหม่คล้ายๆกับ What’s New โดยจะมี Movie Preview อยู่ด้านบน(เท่ดี ^_^)b ) และคลิปอื่นๆอยู่เรียงกันด้านล่าง โดยสามารถเลือกเปิด Background Playback ได้และสามารถตั้งค่า Subtitle ให้คลิปได้ด้วย รวมถึงสามารถเลือกให้บันทึกค่าเวลาเล่นวีดีโอที่เล่นครั้งสุดท้ายในแต่ละคลิปได้ด้วย ถ้ากดออกไปทำอย่างอื่นก็เข้ามาดูต่อได้เลย

xperia_z3_review_screenshot_6

  • Walkman หน้า Home ก็ไปใช้ธีมแบบ What’s New เหมือนกับ Movie คือจะรวมโซนต่างๆไว้ที่หน้า Home เลยไม่ว่าจะเป็น Listen Next, Most Played, Playlist  ที่เราสร้างไว้ หรือจะเป็น ชื่ออัลบั้มต่างๆ โดยการเลือกเพลงหรือศิลปินจะไปอยู่ที่ด้านข้างแทนโดยใช้นิ้วดึงออกมาจากมุมซ้าย โดยเราสามารถใช้ 2 นิ้วเลื่อนรูปแบบการจัดวาง(แบบ Album) เพื่อให้ Walkman แสดงข้อมูลต่างๆได้อีกด้วย ส่วนของ Player ยังคงเหมือนเดิมกดสามารถเลือกสุ่มเพลง,วนซ้ำได้ หรือจะกด Like เพลงที่ฟังอยู่เลยก็ได้ โดยสามารถดาวโหลดปกเพลงได้ผ่าน Download Music Info
  • Sound Effect ฟังก์ชั่นต่างๆยังเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็น การฟังเพลงให้เสียงเคลียขึ้นผ่านโหมด ClearAudio+ หรือปรับเสียงอัตโนมัติผ่าน Dynamic Normalizer นอกจากนี้ยังเพิ่มโหมด DSEE HX  ที่จะทำให้อรรถรสการฟังเพลงของคุณก้าวไปอีกระดับ โดยจะทำให้ไฟล์ในเครื่องคุณ ไม่ว่าจะเป็น MP3 หรือ AAC ที่มีความละเอียดของบิทเรตต่ำๆได้รับการปรับจูนให้มีความคมชัดของเสียงได้ดียิ่งขึ้น และฟีเจอร์ Hi-Res Audio ที่จะช่วยลดความผิดเพี้ยนของเสียง และเสียงลบกวนออกไป
  • Sound Enhancement ยังสามารถเลือก Presets เสียงได้เหมือนเดิม หรือจะปรับแต่ง Equalizer เองก็ได้ โดยสามารถเลือกเพิ่มลดเบสได้ผ่าน ClearBass ในส่วนของ Setting จะมีให้เลือก Surround Sound(VPT) ซึ่งจะเป็นการฟังเพลงในแบบต่างๆไม่ว่าจะเป็น Headset, Studio, Club, Concert Hall หรือใช้ฟังก์ชั่น Clear Stereo ก็ได้ และยังมี S-Force Front Surround เช่นเคย
  • Headphone Selection เป็นฟังก์ชั่นใหม่ที่จะให้เราเลือกหูฟังโซนี่ที่เราใช้งานอยู่เพื่อปรับเสียงให้เข้ากับหูฟังของเราได้มากที่สุด แต่ถ้าใช้รุ่นอื่นอยู่ก็เลือก General ได้เลย

xperia_z3_review_screenshot_7

  • Play Store มาให้รูปแบบธีม Android L ตัวใหม่ที่ทำให้ดูเรียบ สวยน่าใช้งานมากขึ้น โดยในไทยตอนนี้สามารถหาซื้อภาพยนต์หรือหนังสือได้ผ่าน Play Store แล้ว เมื่อดูจากราคาแล้วไม่แพงมากเมื่อเทียบกับตอนเปิดบริการแรกๆ
  • What’s New เป็นการอัพเดทแอพฯใหม่ๆที่เราสนใจ ซึ่งรวมโซนเกมของ Play Station ไว้ในตัวด้วย

review_xperia_z3_camera_fe2

  • Play Station Network เป็นแอพที่ซิงค์ข้อมูลเกี่ยวกับ Play Station Network ของผู้ใช้ไว้บนมือถือ ซึ่งจะรวมรวมการแจ้งเตือนต่างๆ สามารถส่งข้อความคุยกับเพื่อนชวนเล่นเกมได้ มีหน้า Trophies สำหรับโชว์รางวัลที่เราเก็บสะสมไว้ในการเล่นเกมต่างๆ โดยมี Store ในการซื้อเกมส่วนตัวของโซนี่ด้วย ซึ่งน่าเสียดายในไทยยังใช้ไม่ได้ T_T นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ซึ่งก็คือการสตรีมภาพเกมจาก PlayStation 4 มาเล่นบนมือถือได้ด้วย (โดยหลักการคล้ายๆเทคโนโลยี Onlive ที่ใช้ในสหรัฐ) ซึ่งแน่นอนคุณต้องมีทั้ง Xperia Z3 หรือ Z3 Compact และ PlayStation 4 นั่นเอง เพราะหากคุณกำลังเล่นเกมเพลินๆแต่โดนแฟนแย่งทีวีล่ะก็คงจะเซ็งไม่น้อย แต่ไม่ต้องห่วงเพราะต่อไปเราสามารถนำเกมมาเล่นบนมือถือได้แล้วนั่นเองครับ

xperia_z3_review_screenshot_8

  • TrackID แอพที่มีคู่ Xperia มานานไว้สำหรับค้นหาเพลง เช่นถ้าเราขึ้นรถเมย์เเล้วเจอเพลงเพราะๆเพลงนึ่งที่เราไม่รู้ว่ามันคือเพลงอะไร เราก็เเค่ปุ่มแล้วรอแอพมันบันทึกเสียงสักพัก มันก็จะแจ้งให้เรารู้ว่าเพลงที่เราฟังอยู่นั้นคือเพลงอะไร โดยสามารถใช้หาได้ทั้งเพลงไทยและอังกฤษ
  • Backup & Restore ใช้ Backup ข้อมูลต่างๆเวลาเราต้องการจะรีเซ็ตเครื่อง(ล้างเครื่อง) โดยสามารถบันทึก เบอร์โทร, ข้อความ, ปฏิทิน, call log, และบุ๊คมาร์กเว็บต่างๆของเราไว้ได้ และ Restore คืนได้เวลาเราล้างเครื่องเสร็จแล้ว โดยสามารถตั้งเป็นออโต้แบคอัพได้ด้วย

xperia_z3_review_screenshot_9

  • OfficeSuit 8 โปรแกรมเกี่ยวกับการจัดการเอกสารต่างๆ โดยมีทั้ง Document สำหรับจัดการเอกสารต่าง Spreadsheet สำหรับจัดการงานบันทึกต่างๆที่ต้องใช้สูตรคำนวนในรูปตาราง Presentation สำหรับไว้เปิดไฟล์ PowerPoint และ PDF สำหรับอ่านไฟล์ .pdf

xperia_z3_review_screenshot_10

  • Settings การตั้งค่าต่างๆยังคล้ายๆเดิม ผมขอแนะนำแต่ฟังก์ชั่นที่เพิ่มมาใหม่นะครับ Motion ส่วนนี้จะเป็นการตั้งค่าเกี่ยวกับพร๊อกมือถือซึ่งตอนนี้จะเป็น Smart Call Handling ซึ่งสามารถยกมือถือขึ้นมาแนบหูเพื่อรับโทรศัพท์ได้เลย ในส่วน Display ก็จะมีฟังก์ชั่น Glove Mode สำหรับใช้งานมือถือขณะสวมถุงมือ Tab to Wake Up สำหรับการใช้นิ้วแตะหน้าจอ 2 ครั้งขณะที่ล็อคเครื่องอยู่เพื่อเปิดหน้า Lock Screen (ถนอนปุ่ม Home ได้ดีเลยล่ะ ^_^) Printing สำหรับการสั่งพิมพ์งานผ่านมือถือ
  • Power Management สามารถเลือกเปิด STAMINA Mode สำหรับยืดการใช้งานแบตเตอรี่ได้(โดยการปิดแอพฯที่ไม่จำเป็น) และยังมีโหมดใหม่ Ultra STAMINA mode ที่จะปิดทุกอย่างเลยเหลือไว้แค่ฟังก์ชั่นพื้นฐานของมือถือเท่านั้น มีโหมด Location-based Wi-Fi สำหรับการปิดไวไฟเมื่อเราออกนอกพื้นที่เเละจะต่อไวไฟอีกครั้งเมื่อเรากลับมา ช่วยให้เครื่องไม่ต้องหาคลื่นไวไฟตลอดเวลา และ Queue background data
  • Google Map จับสัญญาณได้ไว ทิศทาง GPS ถูกต้องใช้นำทางได้แม่นยำ

headcamera

2_XperiaZ3Review_camera2

หากมองในภาพรวมแล้วกล้องของ Xperia Z3 ยังไม่ต่างจาก Xperia Z2 มากนักยังใช้ความละเอียด 20.7 ล้านพิกเซลเหมือนเดิม พร้อมเซนเซอร์ Exmor RS™ ขนาดใหญ่ถึง 1/2.3 นิ้วซึ่งใหญ่พอๆกับกล้องคอมแพคเลยทีเดียว กับกลไกประมวลผล BIONZ™ ที่จะช่วยลด Noise ในการถ่ายภาพ มาพร้อมระบบการสั่นไหวและจัดการแสงอย่างมีประสิทธิภาพ และเลนส์ G ของโซนี่ มีมุมกว้างเลนส์ 25 มม. ทำให้สามารถรับภาพได้กว้างกว่า Xperia Z2 ในตำแหน่งการถ่ายเดียวกัน (ใน Xperia Z2 มุมกว้างเลนส์ 27มม.) ช่องรับแสง F2.0 ปรับปรุงโมดูลกล้องให้บางกว่าเดิม (ทำให้เครื่องบางกว่าเดิมด้วย) แต่ยังอัดแน่นฟีเจอร์อื่นๆเช่นเคยไม่ว่าจะเป็นการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียด 4K การถ่ายวีดีโอแบบสโลว์ Timeshift Mode รวมถึงของเล่นใหม่อย่าง AR Fun ซึ่งทำให้เราสามารถเล่นเอฟเฟค AR กับกล้อง Xperia Z3 ได้มากขึ้น โหมด Multi-Camera ที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน 2 เครื่องเข้าด้วยกัน แล้วถ่ายวีดีโอจากแต่ละมุมเอามารวมกันได้ ฯลฯ ซึ่งเราไปดูกันดีกว่าว่า Xperia Z3 มีอะไรใหม่ๆมาให้เราเล่นกันบ้าง

  • Superior Auto โหมดถ่ายภาพแบบเลือกซีนอัตโนมัติที่จะทำให้การถ่ายรูปง่ายขึ้นแม้ว่าจะมีเสียงวิจารณ์ด้านลบเกี่ยวกับโหมดนี้เยอะอยู่ว่าถ่ายภาพห่วยสู้โหมด Manual ไม่ได้แต่ใน Xperia Z3 ก็ได้รับการปรับปรุงขึ้นและถ้าถ่ายภาพในโหมดนี้ตอนกลางคืนก็จะสามารถดัน ISO ได้ถึง 12800 เลยทีเดียว (แต่ก็ต้องแลกกับสปีดชัตเตอร์ที่ช้าลง)
  • Manual Mode โหมดถ่ายภาพแบบปรับมือ สามารถตั้งค่าต่างได้ ไม่ว่าจะเป็นการชดเชยแสง(EV), White Balance, Resolution มีให้เลือกตั้งเเต่ 2MP ถึง 20.7MP, Smile Shutter, Focus มีให้เลือก 5 โหมดคือ Single Focus, Multi Focus, Face Detection(โฟกัสติดตามใบหน้า), Touch Focus และ Object Tracking(โฟกัสติดตามวัตถุ), โหมดถ่ายภาพย้อนแสง(HDR), ISO ตั้งได้ตั้งเเต่ 50-800 ที่ระดับความละเอียด 8-20.7MP และสามารถดันได้ ISO3200 ที่ระดับความละเอียดต่ำสุดถึง 8MP, Metering(จุดวัดแสง), Image Stabilizer(กันสั่นภาพ) และ Face Registration(การจดจำใบหน้าเพื่อใช้แยกในแอพฯ Gallery)
  • 4K Video การถ่ายวีดีโอคุณภาพสูง ซึ่งจะมีความละเอียดสูงถึง 4 เท่าของระดับ Full HD (1080p) ในปัจจุบัน ซึ่งทำให้สามารถเก็บรายละเอียดของคลิปได้มากยิ่งขึ้นเพื่อใช้เล่นในทีวีหรือสื่อที่รองรับความละเอียด 4K แต่ก็ยังมีปัญหาเพราะการถ่ายวีดีโอที่ความละเอียดนี้ยังมีความร้อนสูงทำให้ถ่ายไม่ได้นานมากนัก แต่ก็ถูกแก้ไขบ้างแล้วใน Xperia Z3 แต่เราก็ไม่แนะนำให้คุณถ่ายเกิน 3-4 นาทีนะครับ ^^
  • Timeshift Burst –  โหมดรัวภาพซึ่งจะถ่าย 61 ภาพใน 3 วินาที แล้วให้เราเลือกภาพที่ดีที่สุด โดยหลักการทำงานคร่าวๆน่าจะเป็นการถ่ายภาพอยู่ตลอดเวลาแล้วเมื่อเรากดปุ่มมันจะเอา 30 ภาพก่อนเรากด 1 ภาพตอนเรากด แล้ว 30 ภาพหลังเรากดมาเรียงให้เราเลือกนั่นเอง
  • Timeshift Video การบันทึกวีดีโอแบบสโลโมชั่น โดยจะบันทึกวีดีโอที่ความเร็ว 120fps แต่ที่เจ๋งจริงๆคือเราสามารถเลือกช่วงเวลาที่เราต้องการให้มันสโลว์ได้ด้วย สามารถชมได้ที่คลิปด้านล่างเลยครับ ^^

  • Creative Effect ใส่เอฟเฟคต่างๆให้กับภาพหรือคลิปของเราไม่ว่าจะเป็น Tint, Fisheye, Color Sketch, Old Film ฯลฯ ซึ่งจะแสดงผลแบบ Realtime
  • AR Effect การใส่เอฟเฟคให้ภาพแบบ Realtime และเป็นแบบ 3D ด้วย โดยแอพจะสแกนลักษณะของพื้นที่ที่เราถ่ายแล้วจำลองสภาพแวดล้อมสมมุติขึ้นมา มีทั้ง Fairytale, Dinosaur, Masquerade ฯลฯ โดยสามารถถ่ายได้ทั้งภาพนิ่งหรือบันทึกวีดีโอก็ได้

review_xperia_z3_camera_fe3

  • AR Fun ถ้าชอบ AR Effect แล้วก็ต้องหลงรักโหมดใหม่นี้ด้วย เพราะมันสามารถแต่งเติมได้บรรเจิดกว่า มีเอฟเฟคให้เล่นมากกว่า เช่นเอาธนูไปปักวัตถุต่างๆ เอาถึงน้ำแข็งราดหัวเพื่อนทำ Ice Budget ก็ได้และสามารถขีดเขียนตัวอักษรใดให้เป็นแบบ AR ก็ได้ สามารถบันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอเช่นเดิม
  • Background defocus โหมดละลายฉากหลังซึ่งการถ่ายให้ตั้งวัตถุกับฉากหลังห่างกันประมาณ 1 เมตร โดยกล้องจะถ่ายภาพออกมา 2 ภาพคือโฟกัสวัตถุและโฟกัสฉากหลังและนำมาโพรเซสรวมกัน โดยเราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ฉากหลังเบลอมากน้อยแค่ไหน หรือจะเบลอแบบเหวี่ยงกล้องขึ้นด้านบนหรือด้านข้างก็ได้
  • Info-Eye การถ่ายภาพเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุนั้นๆ เช่นเราถ่ายรูปหาไอเฟลแอพฯก็จะหาข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับหอไอเฟลมาให้เรา หรือถ่ายรูปหนังสือเล่มหนึ่งแอพฯก็จะหาข้อมูลหนังสือนั้นมาให้เรา (แต่ปัจจุบันการค้นหายังไม่ครอบคลุมมากนัก)

review_xperia_z3_camera_fe1

  • Social Live เราสามารถถ่ายคลิปอะไรก็ได้ มันจะอัพขึ้น Facebook ให้เพื่อนเราดูเเบบสดๆ สามารถคอมเม้นกันได้แบบ Realtime เลย แต่เน็ตต้องแรงหน่อยนะ ไม่แนะนำให้ใช้กับ 3G เพราะ Data ท่านจะลดฮวบๆเลย

review_xperia_z3_camera_fe4

  • Face In ถ่ายรูปเพื่อนแต่อยากให้รูปเราไปอยู่ในนั้นด้วย โหมดนี้นับเป็นทางออกที่ดีเพราะจะใช้กล้องหน้าถ่ายรูปเราลงไปในนั้นด้วยซะเลย
  • Sound Photo เป็นการถ่ายรูปๆนึ่งและจะบันทึกเสียงบรรยากาศเวลาที่เราถ่ายภาพนั้นไว้เป็นเวลา 3 วิด้วย

review_xperia_z3_camera_fe5

  • Multi Camera เป็นโหมดที่สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโพน 2 เครื่องแล้วนำไปถ่ายคลิปในมุมที่ต่างกันแล้วนำมารวมกันเป็นคลิปในหน้าจอเดียวกันได้

สำหรับการใช้งานกล้อง Xperia Z3 ก็ต้องบอกว่าได้รับการปรับปรุงขี้นเล็กน้อยจาก Xperia Z2 ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนมาใช้เลนส์กว้าง 25มม. ทำให้ได้ภาพในมุมที่กว้างกว่าเดิม ส่วนปัญหาโหมด Auto ที่มึนๆในบางสถานการณ์ผมลองถ่ายๆดูโดยเปลี่ยนมุมกล้องไวๆก็พบว่ามันเริ่มเปลี่ยนซีนตามได้ไวขึ้นอ่ะ แต่ถ้าจะให้ชัวแนะนำให้ใช้โหมด M แล้วเลือก SCN ให้ตรงกับที่เราต้องการดีกว่า แต่หลายๆคนอาจจะไม่ชอบโหมด M ตรงที่เราต้องมาตั้งค่าอะไรต่างๆเองทั้งหมด (M ซะจริงๆ >.<) กล้องของ Xperia Z3 จะรับแสงได้มากกว่า Xperia Z2 ซึ่งช่วยได้ดีในการถ่ายภาพที่มีแสงน้อยๆ แต่การถ่ายภาพตอนกลางวันที่มีแสงมากอาจทำให้ภาพที่ได้จ้าและสีสันต่างๆดูดรอปไป ตรงนี้เราอาจแก้ได้ด้วยการตั้งค่าการรับแสง (EV) ให้ลดลงเวลาถ่าย ส่วนการถ่ายในตอนกลางคืนในโหมด Auto ก็ยังไม่ค่อยดีเหมือนเดิม เพราะมันจะปรับค่า ISO ให้สูงและเมื่อค่าสูงจะทำให้สปีดชัตเตอร์ต่ำ ถ้าเราถือกล้องไม่นิ่งจริงๆภาพจะเบลอเลยล่ะ แต่ถ้ามันใจว่าถือนิ่งพอภาพที่ได้จะดูโอขึ้นมากการลด Noise อยู่ในระดับที่รับได้เลยล่ะ

ด้านล่างคือภาพถ่ายเปรียบเทียบ Xperia Z3 กับ Xperia Z2 ในสภาวะแสงต่างๆและเวลาต่างๆ (ภาพถ่ายตอนกลางคืนรอบนี้ลืมจริงๆครับ T_T) เราไปดูดีกว่าว่ามันจะต่างกันมากน้อยขนาดไหน
*เพราะ Xperia Z3 ใช้เลนส์กว้าง 25มม. ทำให้แต่ละภาพสามารถเก็บภาพได้กว้างกว่า Xperia Z2 นั่นเอง

headpic reviewxperia_z3_pictest1 reviewxperia_z3_pictest2 reviewxperia_z3_pictest3 reviewxperia_z3_pictest4 reviewxperia_z3_pictest5 reviewxperia_z3_pictest6 reviewxperia_z3_pictest7 reviewxperia_z3_pictest8 reviewxperia_z3_pictest9 reviewxperia_z3_pictest10 reviewxperia_z3_pictest11

 

headoverall

ภาพรวมของ Sony Xperia Z3 ก็ยังเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงปลายปีที่ยังต่อยอดความสำเร็จของตระกูล Xperia Z Series ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์เครื่องที่โค้งมนช่วยให้การจับถือเครื่องสะดวกมากขึ้น สามารถใช้งานมือเดียวได้สะดวกกว่า ใช้งานนานๆไม่เมือยมือแบบ Xperia Z2 การแก้ไขเรื่องลำโพงเครื่องที่แม้จะอัดลำโพงมา 2 ตัวแบบ Stereo ใน Xperia Z2 แต่เสียงที่ได้ยังทุ้มๆไม่ใสเท่าที่ควร ก็ได้รับการแก้ไขใน Xperia Z3 โดยการย้ายลำโพงมาไว้ด้านหน้าช่วยให้เสียงดังขึ้นและใสขึ้น งานประกอบเครื่องที่เนียบขึ้น ไม่ต้องกลัวเครื่องงอแบบที่เป็นกระแสนิยมตอนนี้ ฮ่า พอร์ตปิดจุกต่างๆถูกออกแบบมาให้ยางซีลปิดลึกขึ้นช่วยให้คุณสมบัติกันน้ำลึกขึ้นเป็น 1.5 เมตรนาน 30 นาที

ด้านซอฟแวร์ก็ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ แต่ที่ผมชอบที่สุดน่าจะเป็นแบตเตอรี่่ที่อึดขึ้น สามารถใช้งานหนักๆได้วันนึงแบบสบายๆ ถ้าไม่เล่นเกมมากหรือใช้งาน Internet ตลอดสามารถใข้งานได้ 2 วันตามที่โซนี่ได้เครมไว้อย่างที่เครมไว้ในตอนเปิดตัว ส่วนด้านการใช้งานต่างๆ ความเร็วในการเปิดโปรแกรมยังไม่ต่างจาก Xperia Z2 มากนักด้านกล้องได้รับการปรับปรุงทางซอฟแวร์ให้มีสีที่ถูกต้องมากขึ้น สามารถถ่ายภาพในที่ๆมีแสงน้อยได้ดีมากขึ้น แม้ว่าโหมด Auto จะยังไม่สุดยอดมากเท่าไรก็ตาม >.<

สำหรับคนที่ยังใช้ Xperia Z2 อยู่ Z3 อาจยังไม่ใช่สมาร์ทโฟนตัวต่อไปที่จะเปลี่ยนไปใช้ เพราะสเปคและฟังก์ชั่นต่างๆอาจจะยังไม่เปลี่ยนมากนัก แต่สำหรับใครที่จะซื้อสมาร์ทโฟนใหม่ และยังลังเลระหว่าง Xperia Z2 และ Xperia Z3 ก็ต้องแล้วแต่ความชอบกันล่ะครับ งานนี้เพราะส่วนต่างของราคาเกือบ 5000 บาทกับสเปคที่เปลี่ยนไปนับว่ายังคุ้มค่ามากที่จะเอา Xperia Z2 แต่ถ้าหากงบถึงและต้องการสมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่ะก็ Xperia Z3 ยังเป็นตัวเลือกที่สุดยอดอยู่แน่นอนครับ ^_^)b

สำหรับใครที่อ่านรีวิวแล้วสนใจสามารถเลือกซื้อสมาร์โฟน Xperia Z3 และ Xperia Z3 Compact พร้อมของแถมสุดพิเศษได้ที่ร้านเราได้ครับ

Xperia Z3 ราคา 23,990 บาท
Xperia Z3 Compact ราคา 19,990 บาท

FCT_7124

 

 

 

_________________________________________________________________________________________________________________

 FCT_6871 FCT_6911 FCT_6968 FCT_7030 FCT_7036 FCT_7042 FCT_7058 FCT_7070

ขอบคุณภาพสวยๆจาก

Facilmente FotoJ Studio

และพรีเซ็นเตอร์สุดสวย น้อง Yogue X’z ^_^

underline

ขอบคุณที่ร่วมแสดงความรู้สึกของคุณต่อบทความนี้ อย่าลืมที่จะแชร์ให้คนอืนได้รู้ความรู้สึกนี้ .
บอกให้เรารู้ถึงความรู้สึกหลังจากที่คุณได้อ่านบทความนี้
  • ประทับใจสุดๆ
  • ดีจังเลย
  • โกรธสุดๆ
  • เฉยๆ อ่ะ
  • รู้สึกหดหู่