นิยามคำศัพท์เพื่อให้ไม่เกิดความสับสน
กระจกนิรภัย คือ กระจกที่ใช้ติดหน้าจอมือถือที่เราเห็นทั่วไปในท้องตลาด มักมีความทนทานรอยขีดข่วนที่ระดับ 9H
ฟิล์มกันรอย คือ ฟิล์มกันรอยที่มีลักษณะเป็นพลาสติกบางๆ สามารถบิดงอได้โดยไม่แตกหัก
ฟิล์มกระจก(กันกระแทก) Metearmor คือ สารประกอบที่ผสมระหว่างกระจกกับ PET มีความทนทานเทียบเท่ากับกระจกนิรภัย 9H สำหรับป้องกันหน้าจอจากแรงกระแทกที่จะไม่แตกและทนทานกว่ามาก
—————————————————–
เคยไหม? ติดกระจกนิรภัยบนหน้าจอสมาร์ทโฟนไว้เพื่อป้องกันหน้าจอแตก กันรอยขีดข่วน แต่พอถึงคราวทำหล่นถึงหน้าจอจะไม่เป็นอะไร แต่กระจกนิรภัยก็แตกไปเสียก่อน ทำให้ต้องเปลี่ยนกระจกชิ้นใหม่อยู่บ่อย ครั้นจะกลับไปใช้ฟิล์มกันรอยธรรมดาถึงจะบางและไม่แตก แต่ก็กันกระแทกได้แค่ที่ระดับ 3H-5H ซึ่งน้อยกว่ากระจกนิรภัยที่ระดับ 9H เราจึงขอแนะนำให้ท่านได้รู้จักกับ Metearmor (เม-เท-อาร์ม-เม่อร์) ฟิล์มกระจกป้องกันหน้าจอแตกสุดแข็งแกร่งจาก Moxbii
กระจกนิรภัยมีข้อดีที่สำคัญที่สุดคือช่วยป้องกันหน้าจอสมาร์ทโฟนจากรอยขีดข่วนได้อย่างดีเยี่ยม แต่มีข้อเสียคือแตกได้ง่ายเมื่อทำตก ซึ่ง Moxbii ได้สร้างนวัตกรรมใหม่ขึ้นมาที่ช่วยอัพเกรดให้กระจกนิรภับไม่แตกง่ายและยังสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีเช่นเดิม Metearmor เกิดจากการนำกระจกและพลาสติก PET มาผสมเข้าด้วยกัน ทำให้ได้จุดเด่นการป้องกันการขูดขีดที่ดีเยี่ยมของกระจกนิรภัยและความทนทานไม่แตกง่ายของฟิล์มกันรอยพลาสติก
กระจกนิรภัยทั่วไปจะไม่สามารถทนต่อแรงกระแทกได้มากนัก อย่างที่กล่าวไปในข้างต้น เมื่อแตกแล้วก็ต้องเปลี่ยนใหม่เลย เสียทั้งเงินและเวลา ในกรณีที่กระจกนิรภัยแตกแล้ว การฝืนใช้ต่อทั้งๆที่แตกอาจจะเป็นอันตรายต่อนิ้วก็เป็นได้ แต่สำหรับ Metearmor ต่อให้บิดจนงอก็จะเพียงได้ยินเสียงแตกจากวัสดุเท่านั้น แต่สามารถใช้งานต่อได้อย่างปลอดภัย นอกจากจะช่วยป้องกันแตกแล้ว Metearmor ยังสามารถทนต่อแรง 750 แกรมของดินสอ 9H ได้อีกด้วย ซึ่งนั่นเท่ากับมาตรฐานของกระจกนิรภัยและแข็งแกร่งกว่าฟิล์มกันรอยพลาสติกทั่วไปถึง 3 เท่า
ทดสอบเปรียบเทียบการกันกระแทกระหว่าง Metearmor กับกระจกนิรภัยทั่วไป
Metearmor สามารถทนต่อแรงกระแทก ไม่แตกแม้ตกจากที่สูง
ทดสอบการขีดด้วยดินสอบน Metearmor vs ฟิล์มกันรอยทั่วไป
Metearmor ยังมีความโปร่งใสถึง 93% ความละเอียดสูง ทำให้สามารถเก็บรักษาความอิ่มของสีบนหน้าจอสมาร์ทโฟนของท่านได้ไม่ต่างจากก่อนติด ในขณะที่ฟิล์มกันรอยทั่วไปจะใช้วัสดุพลาสติก TPU ซึ่งมักจะทำให้สีของหน้าจอหลังติดฟิล์มออกอมเหลือง
Metearmor ถูกเคลือบด้วยสารเคลือบป้องกันรอยนิ้วมือและน้ำมัน ทำให้พื้นผิวของฟิล์มเปื้อนคราบรอยนิ้วมือได้ยาก และสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย
อเมริกันฟุตบอลเป็นหนึ่งในกีฬาที่รุนแรงที่สุดในโลก การออกแบบของหมวกที่สวมใส่ในการแข่งขันนั้นสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการป้องกันนักกีฬาจากการบาดเจ็บร้ายแรง ซึ่ง Moxbii Metearmor ก็มีการออกแบบที่มาจากคอนเซปต์นี้เช่นกัน โดยพวกเขาเรียกมันว่า “หลักการหมวกอเมริกันฟุตบอล” โดยมีชั้นที่แข็งอยู่ด้านนอก และมีชั้นที่อ่อนนุ่มอยู่ด้านในเพื่อรักษาศรีษะผู้สวมใส่ สำหรับ Metearmor นั้น ชั้นนอกจะเป็นชั้นที่แข็งเหมือนกระจกเพื่อปกป้องหน้าจอจากแรงกระแทก และชั้นในจะเป็นชั้นที่อ่อนนุ่มเพื่อดูดซับแรงกระแทก การผสานทั้งสองชั้นเข้าด้วยกันช่วยให้ฟิล์มกระจกกันกระแทกนี้มีการป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด
ในส่วนของการผลิต ฟิล์มต่างๆโดยมากจะถูกผลิตขึ้นในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ Metearmor นั้นถูกค้นคว้าในห้องแล็บของ Moxbii ที่ตั้งอยู่ในเกาะไต้หวัน โดยวัตถุดิบที่ใช้ได้มาจากประเทศญี่ปุ่น และได้ผ่านการทดลองต่างๆนาๆเพื่อหาสูตรที่ลงตัวที่สุด หลังจากนั้นวัตถุดิบและสูตรผสมจะถูกส่งไปยังโรงงานผลิตฟิล์มคุณภาพสูงในไต้หวัน จากนั้นแผ่นฟิล์มที่เกิดจากสารประกอบของกระจกและพลาสติก PET จะถูกส่งกลับไปยังบริษัทในรูปแบบแผ่นใหญ่ยักษ์ และสุดท้ายพวกเขาก็จะตัดมันออกมาด้วยเทคโนโลยีการตัดด้วยเลเซอร์ของพวกเขาเอง เทคโนโลยีการตัดด้วยเลเซอร์ถูกนำมาใช้เพื่อที่จะรับประกันความแม่นยำและคุณภาพ เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ เช่น ขอบที่ไม่เท่ากัน หรือรอยหยักที่เกิดจากการใช้วิธีตัดด้วยบล็อกมีดแบบที่นิยมใช้กัน นั่นจึงทำให้ตำแหน่งต่างๆถูกตัดอย่างแม่นยำและมีคุณภาพที่สูงกว่า ขั้นตอนเหล่านี้ทำให้ Moxbii สามารถควบคุมคุณภาพของฟิล์มได้อย่างดีเยี่ยม
Q & A
Q: Metearmor เป็นกระจกนิรภัย (Tempered Glass) หรือเปล่า?
A: Metearmor ผลิตจากสารประกอบที่ผสมระหว่างกระจกกับ PET มันจึงไม่ใช่กระจกนิรภัย เพราะกระจกนิรภัยสามารถแตกได้ง่ายเมื่อได้รับแรงกระแทก Moxbii ได้พัฒนาฟิล์มกระจก 9H สำหรับป้องกันหน้าจอจากแรงกระแทกที่จะไม่แตกและทนทานกว่ามาก
Q: Metearmor ไร้เทียมทานเลยหรือไม่?
A: การทดสอบทั้งหมดได้ถูกปฏิบัติโดยใช้อุปกรณ์จริง และไม่มีการตัดต่อใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ควรจะใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจาก Metearmor สามารถปกป้องได้เพียงแค่บริเวณที่ครอบคลุม และก็มีขีดจำกัดของมันเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ป้องกันอื่นๆ การทดสอบบางอย่างที่ทางบริษัทได้ทดลอง ประกอบด้วย ปล่อย iPhone 5 ตกจากความสูง 2.4 เมตร และการเอารถบัส (หนัก 15 ตัน) วิ่งทับ Galaxy Note 3 ก็ปรากฎว่าหน้าจอของโทรศัพท์แตกทั้งคู่
Q: การป้องกันรอยขีดข่วนของ Metearmor เป็นอย่างไรเมื่อเทียบกับกระจกนิรภัยอื่นๆ?
A: Metearmor และกระจกนิรภัยอื่นๆต่างก็ให้การปกป้องที่ดีกว่าฟิล์มกันรอยทั่วๆไปมากอยู่แล้ว แต่เนื่องจากวัสดุกระจกนั้นแข็งกว่า 9H (ความแข็งของดินสอ) จึงทำให้มันสามารถปกป้องรอยขูดขีดจากมีด มีดพับ กุญแจ และของมีคมอื่นๆได้ดีกว่า Metearmor แต่ในเวลาเดียวกัน ฟิล์มกระจกก็แตกได้อย่างง่ายดาย ทำให้มันอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่ง Moxbii ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกว่าและมีการปกป้องที่ดีใกล้เคียงกับการใช้วัสดุกระจก ดังนั้นพวกเขาจึงพัฒนาสารประกอบ glass-PET ที่มีความแข็งน้อยกว่ากระจกเล็กน้อย แต่จะไม่แตกเหมือนกับกระจก ทำให้ปลอดภัยต่อผู้บริโภคยิ่งกว่า
Q: ทำไมถึงไม่ทดสอบด้วยการใช้ค้อนทุบ?
A: ค้อนไม่ได้ถูกนำมาใช้เป็นตัวอย่างในการนำเสนอ เนื่องจาก Moxbii ได้ทดสอบแล้วว่า กระจกนิรภัยต่างๆจากหลากหลายยี่ห้อนั้นล้วนแต่แตกได้หมดทั้งนั้นเมื่อออกแรงมากพอ ไม่มีฟิล์มไหนสามารถป้องกันหน้าจอโทรศัพท์ไม่ให้แตกได้ แม้ว่าจะอ้างอย่างนั้นก็ตาม ดังนั้นการทดสอบต่างๆของ Moxbii จึงมุ่งเน้นไปที่การจำลองเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงมากกว่า
สุดท้าย ทิ้งท้ายกันไปด้วยคลิปการทดสอบต่างๆของฟิล์ม Metearmor by Moxbii
การทดสอบในคลิปนี้ประกอบด้วย:
1. iPhone 5 ตกจากความสูง 2 เมตร ลงพื้นแบบหน้าคว่ำ ไร้ความเสียหาย
2. iPhone 5 หงายหน้าจอขึ้น ถูกวิ่งผ่านโดยรถยนต์ (น้ำหนัก 1.8 ตัน) ไร้ความเสียหาย
3. iPad ตกจากความสูง 1 เมตร ลงพื้นแบบหน้าคว่ำ ไร้ความเสียหาย
4. ปล่อยลูกเหล็กลงบนหน้าจอโทรศัพท์ที่ติด Metearmor จากความสูง 190 ซม. ลูกเหล็กน้ำหนัก 535 กรัม ฟิล์มกระจกที่ติดไว้ข้างใต้ไม่แตก
5. ปล่อยลูกเหล็กลงบนหน้าจอโทรศัพท์ที่ไม่ได้ติด Metearmor จากความสูง 40 ซม. ลูกเหล็กน้ำหนัก 535 กรัม ฟิล์มกระจกที่ติดไว้ข้างใต้แตก
- ประทับใจสุดๆ
- ดีจังเลย
- โกรธสุดๆ
- เฉยๆ อ่ะ
- รู้สึกหดหู่
สาวกอารยธรรมผู้คลั่งไคล้ทุกสรรพสิ่งที่ติดโลโก้ SONY.
